สิวหัวดำเป็นสิวอุดตันชนิดหนึ่ง ซึ่งแม้ว่าจะเป็นปัญหาผิวที่ไม่รุนแรง หรือก่ออันตรายต่อร่างกาย แต่พอมีสิวผุดขึ้นบนใบหน้า ทำให้หน้าดูไม่เนียนสวย ส่งผลให้สภาพผิวเสียแล้ว ยังมีผลต่อจิตใจ อาจจะทำให้รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมาได้ วันนี้วัตสันเลยอยากชวนเพื่อน ๆ มาดูแลผิวให้ไกลสิวกัน ส่วนจะมีวิธีจัดการกับปัญหาสิวหัวดำยังไงให้อยู่หมัด ลองตามไปดูกันต่อในบทความได้เลย
สิวหัวดำคืออะไร ?
สิวหัวดํา (Blackhead) เป็นสิวอุดตันประเภทหนึ่ง ซึ่งอยู่ในประเภทสิวไม่รุนแรง มีสาเหตุมาจากกการอุดตันของน้ำมันส่วนเกินบนผิว และสิ่งสกปรกอื่นที่หลงเหลืออยู่ในรูขุมขน แต่สิวหัวดำจะมีการอุดตันที่แตกต่างจากสิวประเภทอื่น ตรงที่ไม่มีเชื้อโรค หรือแบคทีเรีย ร่างกายจึงไม่มีการตอบสนองเพื่อกำจัดสิ่งอุดตันเหล่านั้น ทำให้สิวหัวดำมีลักษณะนูนขึ้นมาจากผิว เล็กน้อยและมีสีคล้ำ
สิวหัวดำมีลักษณะอย่างไร ?
สิวหัวดำเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนด้วยไขมัน และเศษผิวหนังที่สะสมอยู่ พอสารเหล่านี้ สัมผัสกับอากาศ เลยทำให้เกิดเป็นหัวสีดำ หรือสีน้ำตาลเข้มบนผิวหนัง ที่เป็นส่วนของสิ่งสกปรกที่อุดตัน อยู่ในรูขุมขน สิวหัวดำมักจะมีขนาดประมาณ 0.1 – 3 มม. ดูใกล้ ๆ จะเห็นเป็นจุดตุ่มนูนเล็ก ๆ ที่ผิวหนัง ส่วนใหญ่จะพบมากบริเวณจมูก และแก้ม
สาเหตุการเกิดสิวหัวดำ เกิดจากอะไรได้บ้าง ?
สิวหัวดำเกิดจากการอุดตันในรูขุมขน การอุดตันของเส้นขน เนื้อเยื่อ และไขมันภายในรูขุมขน เมื่อสิ่งเหล่านี้สัมผัสกับอากาศทำปฏิกิริยากับสารเมลานิน หรือเม็ดสีที่เซลล์ผิวหนัง ทำให้เปลี่ยนเป็นสีดำ บนผิวหนัง อาจเรียกสิวลักษณะนี้ว่า ‘สิวเสี้ยนหัวดำ’ ก็ได้ ซึ่งสิวหัวดำจะไม่มีอาการเจ็บใด ๆ สามารถพบได้มากบริเวณที่มีรูขุมขนกระจุกตัวรวมกันอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น จมูก หน้าผาก แก้ม คาง ฯลฯ
นอกจากสิวหัวดำจะมีสาเหตุการเกิดมาจากการอุดตันในรูขุมขน การอุดตันของเส้นขน เนื้อเยื่อ และไขมันภายในรูขุมขน แล้วสัมผัสกับอากาศทำปฏิกิริยากับสารเมลานิน หรือเม็ดสีที่เซลล์ผิวหนัง ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นการกระตุ้นให้เกิดสิวหัวดำอยู่ด้วย มีทั้งปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอกดังนี้
ปัจจัยภายในที่กระตุ้นให้เกิดสิวหัวดำ
สิวหัวดําเกิดจากร่างกายผลิตไขมันหล่อเลี้ยงผิวหนังมากเกินไป
ต่อมไขมันที่ทำงานมากเกินไปจะสร้างน้ำมันบนผิวมากขึ้น เมื่อน้ำมันผสานกับเซลล์ผิวที่ตายแล้วและสิ่งสกปรก จึงเกิดการอุดตันในรูขุมขนและนำไปสู่การเกิดสิวหัวดำ
ความเครียด
สามารถกระตุ้นการเกิดสิวหัวดำได้ เพราะร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันมากขึ้น ทำให้รูขุมขนอุดตันง่ายและเกิดสิวหัวดำตามมา
สิวหัวดําเกิดจากกรรมพันธุ์
บางคนอาจมีความเสี่ยงเกิดสิวหัวดำได้ง่ายกว่าใคร เพราะปัจจัยทางพันธุกรรมมีผลต่อทั้งการผลิตน้ำมันบนผิวและกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ทำให้รูขุมขนอุดตันง่ายขึ้น
สิวหัวดําเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
ทำให้มีการผลิตไขมันเพิ่มขึ้นในช่วงวัยรุ่น ช่วงมีประจำเดือน หรือระหว่างการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด
การผลัดเซลล์ผิวผิดปกติ
เมื่อกระบวนการผลัดเซลล์ผิวเกิดความผิดปกติหรือไม่สม่ำเสมอ เซลล์ผิวที่ตายแล้วจะสะสมในรูขุมขนและผสมกับน้ำมันบนผิว ทำให้เกิดการอุดตัน ส่งผลให้เกิดสิวหัวดำได้ง่ายขึ้น
สิวหัวดําเกิดจากที่เกิดจากปัจจัยภายนอกที่กระตุ้นให้เกิด
การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง หรือขนมหวานจัด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ทำให้มีน้ำมันสะสมเพิ่มขึ้น และร่วมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้วหรือสิ่งสกปรก อุดตันรูขุมขน ส่งผลให้เกิดสิวหัวดำ สิวอุดตัน หรือสิวชนิดอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น การควบคุมอาหาร ลดของหวานและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงช่วยลดโอกาสการเกิดสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สภาพอากาศ
เช่น สิวขึ้นหลังจากโดนแดด มีการติดเชื้อแบคทีเรีย Propionibacterium acnes (P. acnes) ที่ผิวหนัง
ผลข้างเคียงจากการรับประทานยาบางชนิด
ตัวอย่างของยาที่พบผลข้างเคียงนี้ ได้แก่ ยากลุ่มสเตียรอยด์ ยาบางชนิดที่ใช้รักษาความดันโลหิต ยาคุมกำเนิดบางชนิด และยาต้านอาการซึมเศร้า การสังเกตอาการผิดปกติและปรึกษาแพทย์เพื่อปรับขนาดยา หรือเปลี่ยนชนิดยา เป็นวิธีป้องกันไม่ให้สิวเกิดรุนแรงขึ้นได้
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไปอุดตันรูระบายไขมัน
ผลิตภัณฑ์บางประเภท หากมีส่วนผสมที่อุดตันรูขุมขนหรือกระตุ้นการสร้างน้ำมันบนผิวจนกระตุ้นให้เกิดสิวหัวดำ หรือสิวอุดตันขึ้น รวมถึงสิวประเภทอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น
การเสียดสีหรือแรงกดบนผิว
เช่น การสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ การสวมหน้ากากอนามัยนาน ๆ หรือการใส่อุปกรณ์อย่างหมวกหรือแว่นตาที่รัดแน่นเกินไป สามารถทำให้ผิวระคายเคืองและกระตุ้นการผลิตน้ำมัน ส่งผลให้เกิดสิวหัวดำและสิวชนิดอื่นได้ง่ายขึ้น
สิวหัวดำ และ สิวเสี้ยนหัวดำ มีความแตกต่างกันอย่างไร ?
สำหรับสิวหัวดำ และสิวเสี้ยนหัวดำ เป็นสิวที่มีขนาดเล็กเหมือนกัน แต่จะมีความแตกต่างกัน อยู่บ้าง อย่างสิวหัวดำ หรือสิวหัวดำแข็ง ๆ (Blackhead) จะเป็นสิวอุดตันที่มีลักษณะเป็นตุ่มขนาดเล็ก มีเคราตินและลิพิต ที่โผล่ออกมาจากผิวหน้า แล้วทำปฎิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ และเปลี่ยนเป็นสีเข้ม
ส่วนสิวเสี้ยนหัวดำ (Trichostasis Spinulosa) จะสามารถสังเกตได้จากสิวที่มีขนาดเล็ก มีจุดสีเข้ม และจะมีเส้นขนเล็ก ๆ ปะปนกับเคราติน และอุดตันอยู่ในรูขุมขนด้วย ซึ่งอาจจะมองไม่เห็น ด้วยตาเปล่า ต้องใช้การสัมผัส เวลาลูบจะรู้สึกเหมือนมีเสี้ยนเล็ก ๆ บนผิวหน้า
ตารางเปรียบเทียบ สิวหัวดำ และสิวเสี้ยนหัวดำต่างกันอย่างไร?
| ประเด็น | สิวหัวดำ (Blackhead) | สิวเสี้ยนหัวดำ (Open Comedone) |
| ลักษณะ | สิวหัวดำจะมีจุดสีดำหรือเข้มบนผิว เป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ | จุดเล็ก ๆ สีดำอยู่บนผิว คล้ายเส้นขนอุดตันหรือเสี้ยน |
| สาเหตุการเกิด | การอุดตันของรูขุมขนด้วยน้ำมัน และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำปฏิกิริยากับออกซิเจน จึงเป็นสีดำ | การอุดตันของรูขุมขนเช่นกัน แต่เกิดเฉพาะบนบริเวณที่รูขุมขนเปิดกว้าง เห็นเป็นเส้นหรือจุดเล็ก ๆ คล้ายเสี้ยน |
| ขนาด | สิวหัวดำมักใหญ่กว่า 1–2 มม. | มักเล็กกว่า 1 มม. |
| ตำแหน่งที่พบ | จมูก, แก้ม, หน้าผาก | จมูก, รอบปาก, คาง |
| ความรุนแรง | สิวหัวดำจะไม่เจ็บ แต่สามารถอักเสบได้หากถูกกด หรือบีบ | ไม่เจ็บและมักไม่อักเสบ |
| การรักษา | ใช้ผลิตภัณฑ์กรดผลไม้ (AHA/BHA), เรตินอยด์ หรือการกดทำความสะอาดโดยแพทย์ | ใช้ผลิตภัณฑ์กรดผลไม้ (AHA/BHA), คลีนซิ่งลึก หรือดูแลรูขุมขนให้สะอาด |
สิวหัวดำมักเกิดที่บริเวณใดบ้าง ?
สิวหัวดำสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย แต่ส่วนใหญ่มักจะพบได้มากบริเวณที่มีรูขุมขน กระจุกตัวรวมกันอยู่เป็นจำนวนมาก ผลิตน้ำมันมาก และมีการหลุดลอกของเซลล์ผิวไม่สม่ำเสมอ ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนได้ง่าย เช่น แก้ม หลัง จมูก คาง เป็นต้น ซึ่งสิวหัวดำในแต่ละบริเวณ เกิดจากสาเหตุคล้ายกัน มักใช้การรักษาแบบเดียวกันด้วย
บนใบหน้า
- จมูก: เป็นจุดที่พบสิวหัวดำได้บ่อยที่สุด เพราะมีต่อมไขมันหนาแน่นกว่าบริเวณอื่น
- หน้าผาก: อยู่ในโซนที (T-Zone) ซึ่งมีต่อมไขมันมาก ทำให้เกิดสิวหัวดำได้ง่าย
- คาง: อีกหนึ่งบริเวณที่สิวหัวดำมักปรากฏ เนื่องจากต่อมไขมันหนาแน่นเช่นกัน
- แก้ม: แม้โอกาสเกิดสิวหัวดำบนแก้มจะน้อยกว่าโซนที แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้
ส่วนอื่นของร่างกาย
- หลัง: มีต่อมไขมันจำนวนมาก ทำให้สิวหัวดำสามารถเกิดขึ้นได้
- หน้าอก: โดยเฉพาะบริเวณหน้าอกส่วนบน มักพบสิวหัวดำได้
- ไหล่: การสะสมของแบคทีเรียและความมันบนผิวทำให้สิวหัวดำเกิดขึ้นได้เช่นกัน
วิธีรักษาสิวหัวดำ ควรรักษาอย่างไรดี ?
1.กำจัดสิวหัวดำด้วยการบีบสิว หรือกดสิว
การกำจัดสิวหัวดำด้วยการบีบสิว หรือกดสิว ถึงแม้ว่าจะเป็นวิธีที่ง่ายในการกำจัดสิวหัวดำ แต่ก็เป็นวิธีที่ไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ เพราะการกดสิวหัวดำด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม จะทำให้เกิดการติดเชื้อ ได้ง่าย และยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดเป็นสิวอักเสบมากขึ้นกว่าเดิมด้วย
2.การใช้ยาละลายสิวรักษาสิวหัวดำ
การรักษาด้วยยาละลายสิวจะมุ่งเน้นที่การผลัดเซลล์ผิว และลดการอุดตัน โดยมียาหลายกลุ่ม ที่มีประสิทธิภาพแตกต่างกัน และควรเลือกใช้ยาตามความเหมาะสมของสภาพผิว และคำแนะนำ ของแพทย์ หากใช้ยาแล้วมีอาการแพ้ หรือระคายเคืองรุนแรง ควรหยุดใช้ และปรึกษาแพทย์ผิวหนังทันที ซึ่งยาในการใช้ละลายสิวหัวดำ สามารถใช้ตัวยาได้หลายชนิด ดังนี้
- ผลิตภัณฑ์กลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ (Retinoids) เช่น
- Provamed โปรวาเมด แอนตี้ แอคเน่ สปอต เจล เจลแต้มสิว สิวอักเสบ สิวหัวใหญ่ สิวหัวดำ และสิวหัวหนอง ผิวไม่แห้งลอก ช่วยฟื้นฟูผิว ลดการเกิดรอยแผลเป็นจากสิว อ่อนโยนไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
- กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) เช่น
- Oxe Cure อ๊อกซีเคียว แอคเน่ เคลียร์ โพชั่น 15 มล. แป้งน้ำชมพูแต้มสิว ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ ให้รอยแดงดูจางลง ทำให้สิวแห้ง และยุบเร็ว พร้อมป้องกันการเกิดสิวใหม่ บำรุงผิวให้แลดูกระจ่างใส
- เบนโซอิล เพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide)
3.เลเซอร์สิวหัวดำ
การรักษาสิวหัวดำด้วยเลเซอร์จะใช้พลังงานแสงแทนการเจาะด้วยเข็ม มีเครื่องเลเซอร์ หลากหลายประเภทให้เลือกใช้ เช่น CO2 Laser, V beam และ Pico Laser การเลเซอร์สิวหัวดำจะช่วยกำจัดสิวหัวดำที่ฝังลึก ทำให้สามารถกดสิวออกได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งช่วยลด รอยแดง และปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสขึ้น ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
4.การฉีดเมโสหน้าใส
การฉีดเมโสหน้าใส เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยในการรักษาสิวหัวดำ ด้วยการส่งสารบำรุง เข้าสู่ผิวโดยตรง แพทย์จะเลือกสูตรตามสภาพผิว และปัญหาสิวหัวดำ ซึ่งการรักษานี้ให้ผลเร็วกว่า การทายาทั่วไป แต่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกสูตรที่เหมาะสมกับสภาพผิว
5.การรักษาด้วยยารับประทาน
สำหรับสิวระดับปานกลางจนถึงรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาจ่ายยา 3 กลุ่ม ได้แก่
- ยาปฏิชีวนะ (เช่น Erythromycin, Doxycycline) เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
- ยากลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ (เช่น Isotretinoin) เพื่อควบคุมการผลิตไขมัน
- ยาปรับฮอร์โมน เช่น ยาคุมบางชนิด
และการใช้รักษาด้วยการทานยาจะต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น โดยห้ามใช้ ในหญิงตั้งครรภ์เด็ดขาดเพราะอาจส่งผลต่อทารก
6.การฉีดรีจูรัน (Rejuran)
การฉีดรีจูรันเป็นวิธีรักษาสิวหัวดำด้วยสาร Polynucleotide 2% จาก DNA ปลาแซลมอน จะใช้วิธีฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนังแท้ เข้าไปซ่อมแซมผิว และฟื้นฟู skin barrier ให้แข็งแรง ลดการอักเสบ และการอุดตันของรูขุมขน ทำให้สิวหัวดำเกิดได้ยากขึ้น
ป้องกันการเกิดสิวหัวดำได้อย่างไร?
1.ล้างเครื่องสำอาง และล้างหน้าก่อนนอนให้สะอาดทั่วถึง
การล้างหน้าที่ไม่สะอาดหมดจดอาจจะทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตัน และเพิ่มความเสี่ยง ของการเกิดสิวหัวดำ หรือสิวเสี้ยนหัวดำ จึงควรล้างหน้าให้สะอาดทั่วถึง ด้วยการล้างหน้า 2 ครั้ง ครั้งแรกให้ใช้คลีนซิ่งล้างเครื่องสำอางตามปกติ จากนั้นให้ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้า
- Eucerin ยูเซอริน โปร แอคเน่ โซลูชั่น ซอฟท์ คลีนซิ่ง โฟม
- Acnes เมนโทลาทั่ม แอคเน่ส์ ดีพ วอช คลีนเซอร์ 50 กรัม โฟมล้างหน้าลดสิวอักเสบ คุมมัน
2.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดสิวหัวดำและสิวเสี้ยนหัวดำ
สาเหตุหลักของการเกิดสิวหัวดำคือรูขุมขนที่เกิดการอุดตัน จึงควรเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม ของน้ำมัน เพราะทำให้อุดตันได้ง่าย และควรเลือกใช้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสาร BHA AHA ที่เป็นกรดอ่อนจากธรรมชาติจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำความสะอาดรูขุมขน และช่วยลดการอุดตัน ลงได้
- Oxe Cure อ๊อกซีเคียว แบลคเฮด เคลียริ่ง บีเอชเอ พีเอชเอ โทนเนอร์
- Plantnery แพลนท์เนอรี่ ทีทรี แอคเน่ 2 บีเอชเอ ดรายอิ่ง โลชั่น 15 มล. แป้งน้ำทาสิว
1. ล้างเครื่องสำอาง และล้างหน้าก่อนนอนให้สะอาดทั่วถึง
การล้างหน้าที่ไม่สะอาดหมดจดอาจจะทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตัน และเพิ่มความเสี่ยง ของการเกิดสิวหัวดำ หรือสิวเสี้ยนหัวดำ จึงควรล้างหน้าให้สะอาดทั่วถึง ด้วยการล้างหน้า 2 ครั้ง ครั้งแรกให้ใช้คลีนซิ่งล้างเครื่องสำอางตามปกติ จากนั้นให้ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้า
- Eucerin ยูเซอริน โปร แอคเน่ โซลูชั่น ซอฟท์ คลีนซิ่ง โฟม
- Acnes เมนโทลาทั่ม แอคเน่ส์ ดีพ วอช คลีนเซอร์ 50 กรัม โฟมล้างหน้าลดสิวอักเสบ คุมมัน
2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดสิวหัวดำและสิวเสี้ยนหัวดำ
สาเหตุหลักของการเกิดสิวหัวดำคือรูขุมขนที่เกิดการอุดตัน จึงควรเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม ของน้ำมัน เพราะทำให้อุดตันได้ง่าย และควรเลือกใช้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสาร BHA AHA ที่เป็นกรดอ่อนจากธรรมชาติจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำความสะอาดรูขุมขน และช่วยลดการอุดตัน ลงได้
- Oxe Cure อ๊อกซีเคียว แบลคเฮด เคลียริ่ง บีเอชเอ พีเอชเอ โทนเนอร์
- Plantnery แพลนท์เนอรี่ ทีทรี แอคเน่ 2 บีเอชเอ ดรายอิ่ง โลชั่น 15 มล. แป้งน้ำทาสิว
3. เลือกใช้ครีมกันแดดที่เหมาะกับผิวมัน
สิวหัวดำ สิวเสี้ยนหัวดำ มีสาเหตุมาจากการอุดตัน ซึ่งไขมันส่วนเกินบนผิวหน้าอาจทำให้เกิด การอุดตันขึ้นได้ จึงควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า และควรเลือก ครีมกันแดดที่เนื้อบางเบา ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน และปราศจากน้ำมัน
4. ควบคุมการกินอาหาร
ปัจจัยภายนอกที่มีส่วนกระตุ้นให้เกิดสิวหัวดำปัจจัยหนึ่ง ก็คือการทานอาหารที่มีไขมันสูง และอาหารที่มีรสหวานจัด เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสาเหตุของการผลิตน้ำมัน ใต้ผิวหนัง และทำให้ฮอร์โมนเสียสมดุล จึงควรเลี่ยงอาหารเหล่านี้ แล้วเปลี่ยนมาทานเป็นอาหารต้ม นึ่ง หรือย่าง และดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ เพื่อรักษาสมดุลผิวแทน
5. ดูแลความสะอาดที่นอน
เครื่องนอน ปลอกหมอน และที่นอน เป็นสิ่งที่ผิวของเราสัมผัสอยู่บ่อย ๆ จึงควรทำความสะอาด ที่นอน ชุดเครื่องนอนให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรือสิ่งสกปรก สะสม แล้วเข้าไปอุดตันในรูขุมขน กระตุ้นให้เกิดสิวหัวดำขึ้นมาได้
6.ทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือ
นอกจากเครื่องนอน ปลอกหมอน ฯลฯ อีกสิ่งหนึ่งที่ผิวของเราสัมผัสอยู่บ่อย ๆ ก็คือโทรศัพท์มือถือ ซึ่งโทรศัพท์มือถือเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียค่อนข้างมากอยู่เหมือนกัน จึงควรควรทำความสะอาดหน้าจอโทรศัพท์ด้วยแอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับอุปกรณ์ IT เป็นประจำ เพื่อลดการกระตุ้นให้เกิดสิวหัวดำ
7.ลดการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น
มือของเราก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งรวมเชื้อโรคที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง เพราะในแต่ละวันเราต้องจับ และสัมผัสหลายสิ่งอย่างนับไม่ถ้วน อาจจะทำให้เชื้อโรค สิ่งสกปรกติดมือเรามาด้วย จึงไม่ควรนำมา สัมผัสกับใบหน้า นอกจากนั้นการสัมผัสบ่อย ๆ อาจกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันมากขึ้นด้วย และควรล้างมือบ่อย ๆ เป็นประจำ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรคด้วย
8. หลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะสิว
การใช้มือบีบ หรือแกะสิวอาจดูเหมือนวิธีแก้ปัญหาที่รวดเร็ว แต่ความจริงแล้วจะส่งผลเสียต่อผิวอย่างมาก เพราะการกดหรือแกะสิวจะทำให้เชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในสิวแพร่กระจายไปยังบริเวณผิวรอบ ๆ ทำให้เกิดการอักเสบลุกลาม และอาจทำให้เกิดแผลเปิดหรือบาดแผลลึกได้ นอกจากนี้ ผิวที่ถูกกระตุ้นซ้ำ ๆ ยังมีโอกาสเกิดรอยดำ รอยแดง หรือรอยแผลเป็นถาวร ซึ่งแก้ไขได้ยากและใช้เวลานาน การไม่บีบหรือแกะสิวจึงเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการลดความเสียหายต่อผิวและช่วยให้สิวหายเร็วขึ้นตามธรรมชาติ
ทำความรู้จักกับ “สิวหัวดำ” มาพอสมควรแล้ว พอจะรู้แล้วว่าสิวหัวดำ เกิดมาจากการอุดตัน ของสิ่งอุดตันสะสมแล้วทำปฎิกิริยากับอากาศทำให้หัวสิวเกิดเป็นสีเข้ม จึงควรดูแลรักษาความสะอาด ของผิวให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดการอุดตัน ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รวมไปถึงเลือกสกินแคร์ที่ไม่อุดตันผิว ซึ่งที่ Watsons ก็มีสกินแคร์เนื้อบางเบา อ่อนโยน ไม่อุดตัน ให้เลือกมากมายเลย สามารถไปช้อปกันได้ที่ร้านค้าและออนไลน์เลยน้าาา
คำถามที่พบบ่อย
Q: ทำยังไงให้สิวหัวดำหาย?
A: วิธีรักษาสิวหัวดำเบื้องต้น คือ การทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดเสมอ ใช้ยาละลายหัวสิว หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retinoids เพื่อกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว กดสิวหัวดำด้วยเครื่องมือที่สะอาด พบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
Q: สิวหัวดําบีบได้ไหม?
A: ไม่ควรให้บีบสิวหัวดำด้วยตัวเอง เพราะอาจทำให้สิวเกิดการอักเสบ บวม แดง และเจ็บในบริเวณที่กด และทำให้เกิดรอยแผลเป็น หลุมสิว รอยดำ และอักเสบมากยิ่งขึ้น แนะนำปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อกดสิวหัวดำอย่างถูกวิธี
Q: สิวหัวดําแข็ง ๆ เกิดจากอะไร?
A: สิวหัวดำแข็ง ๆ เกิดจากการ สะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้วกับน้ำมัน (ซีบัม) ในรูขุมขน ทำให้เกิดการอุดตันและขยายตัว เมื่อส่วนที่อุดตันสัมผัสกับออกซิเจนในอากาศ จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ทำให้เปลี่ยนเป็นสีเข้ม เป็นสิวหัวเปิด
Q: ดูยังไงว่าเป็นสิวฮอร์โมน?
A: สิวฮอร์โมนสังเกตได้จากการขึ้นเป็น สิวอักเสบ ในบริเวณ คาง กราม กรอบหน้า และ ลำคอ ซ้ำๆ ในตำแหน่งเดิมๆ ก่อนมีประจำเดือน หรือช่วง ความเครียดสูง และมักเป็นสิว เจ็บ เป็นก้อนใต้ผิว หรือมีหนอง
Q: สิวหัวแข็ง ๆ เกิดจากอะไร?
A: สิวไตเป็นสิวไม่มีหัวลักษณะเป็นตุ่มนูน และมีก้อนแข็งใต้ชั้นผิวอยู่ในประเภทสิวอักเสบแบบไม่รุนแรง พัฒนาไปเป็นสิวอักเสบรุนแรงได้หากบีบ หรือปล่อยทิ้งไว้จึงควรรีบรักษาสิวไตให้หายด้วยยารักษาสิว ฉีดสิว หรือวิธีอื่นๆ
ข้อมูลอ้างอิง
https://skinx.app/content/acne/blackheads
คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ
- 10 สเปรย์ล็อคผม 2025 ล็อคผมแน่น จะทรงไหนก็เอาอยู่
- มัดรวม 3 ไอเดีย ทรงผมเวนดี้ ทรงผมสั้นสไลด์เลเยอร์ เปลี่ยนลุกให้คูลแอนด์คิวท์
- 10 มีดโกนผู้หญิงยี่ห้อไหนดี โกนได้ทุกส่วน ไม่บาดผิว
- รังแค สัญญาณ ที่บอกว่าหนังศีรษะของคุณต้องได้รับการดูแล จริงจัง
- เปิดตัวน้องใหม่ Hada Labo+ จากบ้าน Hada Labo ไอเท็มเด็ดฟื้นผิวให้ Perfect หลังทุกหัตการ




