Get the App
DOWNLOAD NOW
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอปวัตสัน
  • google-play.png
  • app-store.png
  • app-gallery.png
Find a Store Blog
Watsons Services
0
MY BAG
Share

ปัญหาเท้าลอกเป็นเรื่องที่หลายคนเคยพบเจอซึ่งอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ได้ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่ปัญหาโรคเท้าที่ร้ายแรงตามมา วัตสันเลยนำวิธีรักษาเท้าลอกให้หายขาดมาแบ่งปันเพื่อน ๆ ในบทความนี้กันด้วย

เท้าลอกคืออะไร?

เท้าลอกเป็นภาวะที่ผิวหนังบริเวณเท้าหลุดออกมาเป็นแผ่นหรือเป็นขุยเล็ก ๆ อาจเกิดขึ้นได้ทั้งบริเวณฝ่าเท้า ส้นเท้า หรือระหว่างนิ้วเท้า โดยอาการเท้าลอกสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่การสัมผัสกับสารเคมีที่รุนแรง การติดเชื้อรา หรือแม้กระทั่งการขาดความชุ่มชื้นของผิวหนัง และอาจส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจเวลาที่ต้องใส่รองเท้าเปิดส้นได้

10 สาเหตุของอาการเท้าลอก


  • ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น เกิดจากการขาดน้ำในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวแห้งกร้าน และหลุดลอกได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณส้นเท้าที่ต้องรับน้ำหนักตัว
  • ขาดสารอาหารหรือวิตามินบางชนิด เช่น วิตามิน A และวิตามิน E ที่ช่วยปกป้อง และเก็บกักความชุ่มชื้นใ้ห้กับผิว เมื่อขาดวิตามินเหล่านี้ไปจะส่งผลให้ผิวหนังแห้ง และลอกง่ายขึ้น
  • สภาพอากาศ เมื่ออยู่ในสภาพอากาศที่แห้งหรือร้อนชื้นเป็นประจำ รวมถึงการสวมใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ผิวเท้าลอกได้ เช่น รองเท้าคับเกินไป หรือรองเท้าที่ทำจากวัสดุที่ไม่ระบายอากาศ
  • รองเท้าที่ไม่ระบายอากาศ การใส่รองเท้าที่ไม่ระบายอากาศ หรือรองเท้าที่คับเกินไป สามารถทำให้เกิดความชื้นสะสม ส่งผลให้ผิวหนังแห้ง และลอกได้
  • ติดเชื้อรา การติดเชื้อราที่เท้า เช่น โรคน้ำกัดเท้า (athlete’s foot) สามารถทำให้เกิดอาการลอกของผิวหนัง รวมไปถึงสามารถเกิดได้จากการเป็นเชื้อราที่เท้า เช่น เชื้อรา Trichophyton เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการติดเชื้อราที่ผิวหนัง จนมีอาการคัน มีรอยแดง เท้าเหม็น และผิวหนังลอก โดยเฉพาะบริเวณระหว่างนิ้วเท้า
  • โรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคผิวหนังอักเสบ (eczema) หรือโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) โรคผื่นผิวหนังอักเสบชนิดตุ่มน้ำใส โรคสะเก็ดเงิน หรือโรคภูมิแพ้ผิวหนัง อาจทำให้ผิวหนังบริเวณเท้าลอก
  • เท้าสัมผัสกับน้ำนานเกินไป เช่น การแช่ตัวในอ่างอาบน้ำ ว่ายน้ำ หรือเอาเท้าแช่น้ำ ส่งผลทำให้เกิดการสูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติ ทำให้ผิวแห้งแตก เกิดอาการเท้าลอก และเท้าเปื่อยได้
  • การสัมผัสสารเคมี การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีสารเคมีรุนแรง หรือสบู่ที่มีความเป็นด่างสูง อาจทำให้ผิวหนังแห้ง และลอกได้
  • การขาดสารอาหาร หรือวิตามินบางชนิด เช่น วิตามิน A และ E ที่มีส่วนช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นให้ผิว การขาดวิตามินเหล่านี้อาจทำให้ผิวหนังแห้ง และลอกง่ายขึ้น
  • อาการแพ้ต่าง ๆ เช่น การแพ้สารเคมีในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หรือการใช้สบู่ที่รุนแรงทำลายสุขภาพผิวเท้า ทำให้ผิวแห้ง และลอกออกมา
วิธีการดูแลรักษาอาการเท้าลอก

วิธีการดูแลรักษาอาการเท้าลอก


รักษาความสะอาดของเท้า

สาเหตุหนึ่งของเท้าลอกมีส่วนมาจากการติดเชื้อราที่เท้า จึงควรรักษาความสะอาดของเท้าให้ดี ด้วยการล้างเท้ากับสบู่อ่อน ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด และเช็ดเท้าให้แห้งสนิท ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อรา หรือแบคทีเรีย หนึ่งในสาเหตุอาการเท้าลอกไปได้


รักษาด้วยการกินยา

เมื่อพบว่าอาการหนังเท้าลอกเกิดขึ้นจากโรคน้ำกัดเท้า หรือโรคผื่นผิวหนังต่าง ๆ จำเป็นต้องรักษาด้วยการใช้ยาที่ช่วยกำจัดเชื้อรา โดยยารักษาสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป เช่น ยาต้านเชื้อราชนิดยาทาเฉพาะที่ ยาแก้แพ้ เป็นต้น และควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนเลือกทานยา


รักษาด้วยวิธีทางการแพทย์

การรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์จะใช้เมื่ออาการเท้าลอกรุนแรงขึ้น หรือไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น แพทย์อาจพิจารณาให้การรักษาโดยวิธีใช้ยาต้านเชื้อราเพื่อกำจัดเชื้อรา ใช้ยาชนิด Corticosteroids (คอร์ติโคสเตียรอยด์) เพื่อลดการอักเสบ ใช้ยากดภูมิคุ้มกันในกรณีที่เท้าลอกเกิดจากโรคภูมิแพ้ผิวหนัง หรือรักษาด้วยการฉายแสง เป็นต้น


ปรับพฤติกรรมและสวมใส่รองเท้าให้เหมาะสม

การใส่รองเท้าที่ไม่ระบายอากาศ หรือรองเท้าที่คับเกินไป สามารถทำให้เกิดความชื้นสะสม ส่งผลให้ผิวหนังแห้ง และลอกได้ การสวมรองเท้าให้เหมาะสมเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพื่อช่วยดูแลสุขภาพเท้า และป้องกันปัญหาเท้าลอก แนะนำให้ใส่รองเท้าที่พอดีกับเท้า และทำจากวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี

10 วิธีการป้องกันไม่ให้เป็นเท้าลอก

10 วิธีการป้องกันไม่ให้เป็นเท้าลอก


1.ทำความสะอาดเท้าและบริเวณนิ้วเท้าเป็นประจำ

ลองใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิวด้วยน้ำอุ่น เพื่อทำความสะอาดเท้า แล้วเช็ดให้แห้งสนิท โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้า หรือสครับผิวเบา ๆ ร่วมด้วย เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และควรหลีกเลี่ยงกาารใช้สารเคมีที่รุนแรง เพราะอาจทำให้ผิวแห้ง และลอกได้

2.เช็ดเท้าให้แห้งสนิททุกครั้ง

หลังจากล้างเท้าให้สะอาดหมดจดแล้ว ควรเช็ดให้แห้งสนิทด้วยผ้าขนหนูสะอาด โดยเฉพาะระหว่างนิ้วเท้า เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราที่เป็นหนึ่งในสาเหตุทำให้เท้าลอกได้  แนะนำให้เช็ดอย่างเบามือ เพื่อไม่ให้ผิวหนังเกิดการเสียดสีมากเกินไป 

3.ทาครีมบำรุงผิวเท้าให้ชุ่มชื้น

หลังจากล้าง และเช็ดเท้าให้แห้ง เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราที่อาจทำให้เท้าลอกแล้ว ควรทาครีมบำรุงเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง แนะนำให้เพื่อน ๆ เลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเท้า

4.สวมใส่รองเท้าให้พอดีกับขนาดเท้า

อีกหนึ่งสาเหตุที่มีส่วนทำให้เท้าลอก คือการใส่รองเท้าที่ไม่ระบายอากาศ หรือรองเท้าที่คับเกินไป ทำให้เกิดความชื้นสะสม ส่งผลให้ผิวหนังแห้ง และลอกได้ จึงควรเลือกรองเท้าที่มีขนาดพอดี ไม่คับหรือหลวมเกินไป และควรมีพื้นรองรับแรงกระแทกที่ดีด้วย

5.สวมใส่ถุงเท้าและรองเท้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ

นอกจากการเลือกรองเท้าแล้ว ควรเลือกถุงเท้าที่เหมาะกับสภาพอากาศด้วย โดยเฉพาะอากาศร้อนชื้นแบบเมืองไทย ควรเลือกเลือกถุงเท้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ฝ้าย ซึ่งช่วยระบายอากาศได้ดี และควรเปลี่ยนถุงเท้าทุกวันเพื่อป้องกันความอับชื้น

6.สังเกตความผิดปกติของเท้า

อวัยวะอย่างเท้าอาจจะเป็นส่วนที่ถูกละเลยบ่อย และไม่ค่อยได้รับการดูแลเท่าที่ควร ลองเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลเท้าใหม่ หมั่นสังเกตเท้าว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เช่น อาการบวม คัน รอยแดง เป็นต้น เพื่อทำการดูแลรักษาก่อนที่อาการจะรุนแรงขึ้น

7.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

ดูแลอาการเท้าลอกจากภายนอกแล้ว ลองดูแลเท้าลอกจากสุขภาพภายใน ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือเลือกทานอาหารมีสารอาหารที่ช่วยบำรุงผิวสุขภาพดี เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี ซีลีเนียม วิตามินบี ไบโอติน สังกะสี กรดไลโนเลอิก โอเมก้า 3 (Omega 3) หรืออาหารเสริมคอลลาเจน ฯลฯ

8.ดื่มน้ำเพียงพอ

การดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน ประมาณวันละ 2 ลิตร หรือ 6-8 แก้วต่อวัน เป็นการเติมน้ำให้ผิว จะช่วยฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้นขึ้น ทำให้ลดปัญหาผิวแห้งลงไปได้ ดูแลผิวพรรณไปยังฝ่าเท้า ช่วยบำรุงเติมความชุ่มชื้น ให้อาการเท้าลอกบรรเทาไปได้

9.หลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่าในพื้นที่สาธารณะ

ในพื้นที่สาธารณะมีสิ่งสกปรกมากมายที่เราไม่สามารถควบคุมได้ การเดินเท้าเปล่าในพื้นที่สาธารณะ แน่นอนว่าอาจจะทำให้สิ่งสกปรก เชื้อโรค ติดเท้ามาด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เท้าลอกได้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อรา จึงควรสวมใส่รองเท้าอยู่เสมอ

10.สครับหรือขัดผิวเบาๆ

สำหรับคนที่มีปัญหาเท้าลอก แนะนำให้ลองใช้หินขัดหรือผลิตภัณฑ์สครับสำหรับเท้าขัดเบา ๆ บริเวณที่มีผิวลอก เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป และควรทำอย่างเบามือที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระคายเคือง เพระาอาจทำให้อาการเท้าลอกเป็นหนักกว่าเดิมได้

แนะนำ 5 ผลิตภัณฑ์ลดอาการเท้าลอก เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว


1.Nivea นีเวีย ครีม 250 มล. มอยส์เจอร์ไรเซอร์ บำรุงผิว ชุ่มชื่น

Nivea นีเวีย ครีม มอยส์เจอร์ไรเซอร์ บำรุงผิว

รีแพร์ครีมบำรุงผิวเข้มข้น และเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้ความชุ่มชื้นผิว ลดจุดสัมผัสแห้งกร้าน และป้องกันรอยแตกบนผิวหนัง สามารถใช้ทาบริเวณส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และช่วยปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน และป้องกันการแตกลายของผิวหนังได้ด้วย


2.CeraVe Moisturizing Lotion เซราวี มอยซ์เจอร์ไรซิ่ง โลชั่น

CeraVe Moisturizing Lotion เซราวี มอยซ์เจอร์ไรซิ่ง โลชั่น

โลชั่นบำรุงผิวหน้า และผิวกาย สูตรสำหรับผิวแห้งถึงแห้งมาก รวมถึงผิวที่มีปัญหาแดง แห้ง ก่อให้เกิดอาการไม่สบายผิวโดยเฉพาะ ตัวช่วยเติมเซราไมด์ และความชุ่มชื้นที่ให้ผลลัพธ์ยาวนาน ประกอบด้วยเซราไมด์ที่จำเป็นต่อผิว 3 ชนิด ด้วยสารสกัดจากพืชธรรมชาติ พร้อมผสานด้วยไฮยาลูรอนิกแอซิด เพื่อช่วยชดเชยความชุ่มชื้น และยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างปราการปกป้องผิวอีกด้วย


3.Cetaphil เซตาฟิล มอยซ์เจอไรซิ่ง ครีม

Cetaphil เซตาฟิล มอยซ์เจอไรซิ่ง ครีม

ครีมบำรุงที่เหมาะสำหรับผิวแห้ง ผิวแห้งมาก และผิวแพ้ง่าย ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวตั้งแต่วันแรกที่ใช้ และช่วยฟื้นฟูความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ พร้อมทั้งยังช่วยเสริมให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรง มาพร้อมกับเนื้อครีมที่เข้มข้นแต่ไม่เหนอะหนะ ซึมง่าย ให้ผิวนุ่ม และเรียบเนียนขึ้น

4.Ezerra อีเซอร่า ครีม มอร์ มอยส์เจอไรซ์

Ezerra อีเซอร่า ครีม มอร์ มอยส์เจอไรซ์

ครีมบำรุงผิวเพิ่มความชุ่มชื้น เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ ที่สามารถกักเก็บ และควบคุมความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง มีส่วนผสมสำคัญจากธรรมชาติ 100% ด้วยสูตรที่อ่อนโยน แม้ผิวบอบบาง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวแห้งกร้าน สามารถใช้ได้ทั้งเด็กเล็ก เด็กโต และผู้ใหญ่ที่มีอาการผิวแห้ง หนา หรือแตกกร้าน 


5.WATSONS ครีมทาส้นเท้าแตก ฟุตอีส บาย วัตสัน แคร็ก ฮีล ครีม

WATSONS ครีมทาส้นเท้าแตก ฟุตอีส บาย วัตสัน แคร็ก ฮีล ครีม


ครีมทาส้นเท้าแตกจาก Watsons เป็นครีมที่มีส่วนประกอบของยูเรียเข้มข้น 9.5% (Urea) แซคคาโรด์ ไอโชเมอร์เรท (Saccharide Isomerate) อะลันโทอิน (Allantoin) และอนุพันธ์วิตามินอี (Vitamin E) พร้อมช่วยให้ผิวเท้าลอก กลับมาเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น ไม่แห้งกร้าน ส่วนเนื้อครีมซึมรวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ


เท้าลอกอย่ามองข้าม อาจเป็นสัญญาณเตือนโรค

ปัญหาเท้าลอกไม่ได้เกิดจากเพียงแค่สภาพอากาศ หรือการดูแลเท้าไม่ดีเท่านั้น แต่อาการเท้าลอกอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงโรคต่าง ๆ ที่เกิดจากปัจจัยภายในร่างกาย เช่น การติดเชื้อราที่เท้า หรือโรคผิวหนังอื่น ๆ จึงควรดูแล และป้องกันให้ถูกวิธี เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเท้าที่เหมาะสม รักษาความสะอาดของเท้า และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังเป็นประจำ เพื่อช่วยลดโอกาสในการเกิดเท้าลอกซ้ำได้

เท้าและฝ่าเท้าเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่มักจะถูกมองข้าม และถูกละเลยในการใส่ใจดูแลอยู่บ่อย ๆ จากปัญหาเท้าลอกที่สามารถบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ได้ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่ปัญหาโรคเท้าที่ร้ายแรงตามมา วัตสันจึงอยากชวนเพื่อน ๆ หันมาใส่ใจดูแล และปกป้องเท้าของเรา เพื่อสุขภาพเท้าที่ดีขึ้นด้วย

ข้อมูลอ้างอิง

https://samitivejchinatown.com/th/article/health-check/what-is-peeling-feet

https://www.rattinan.com/what-causes-peeling-feet/


คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ

Previous

10 วิธีดูแลหนังศีรษะแห้ง ลอก คัน เป็นขุย ใช้อะไรดี?

Next

10 สเปรย์กันแดด ยี่ห้อไหนดี พกง่าย กันแดดได้ทั้งวัน

Related Topics
Share
WHAT’S HOT
  1. 10 ร้านเสื้อผ้าในไอจีราคาถูก หลักร้อย ไม่ตกเทรนด์
  2. 12 สกินแคร์จาก CICA ส่วนผสมช่วยลดสิว ผิวระคายเคือง
  3. 10 สถานที่ขอพรเรื่องความรัก ช่วยคนโสดไม่ให้นก
  4. 15 ครีมบำรุงผิวขาว และครีมทาผิวขาวยี่ห้อไหนดี 2025
  5. แต่งหน้าเป๊ะปังด้วยเมคอัพ ชิ้นที่สอง1บาท
  6. ส้นเท้าแตกเกิดจากอะไร พร้อมครีมทาส้นเท้าแตกตัวดัง
  7. เท้าลอกเกิดจากอะไร มารู้ 10 วิธีรักษาเท้าลอกให้หายขาดกัน
  8. 10 วิธีดูแลหนังศีรษะแห้ง ลอก คัน เป็นขุย ใช้อะไรดี?
  9. สิวหัวดำเกิดขึ้นได้อย่างไร พร้อม 6 วิธีจัดการปัญหาสิวหัวดำ
  10. 10 สเปรย์กันแดด ยี่ห้อไหนดี พกง่าย กันแดดได้ทั้งวัน
  11. สําลีเช็ดหน้า ยี่ห้อไหนดี เช็ดเครื่องสำอางไม่เป็นขุย ไม่บาดผิว
*/?>