Get the App
DOWNLOAD NOW
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอปวัตสัน
  • google-play.png
  • app-store.png
  • app-gallery.png
Find a Store Blog
Watsons Services
0
MY BAG
Share

กรดไฮยาลูโรนิก หรือ Hyaluronic Acid (HA) คือ สารธรรมชาติชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในร่างกาย มีคุณสมบัติเด่นในด้านการอุ้มน้ำ ทำให้ผิวของเรายังคงความชุ่มชื้นและเต่งตึง หากร่างกายขาดสารไฮยาลูโรนิกจะทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น แห้งกร้าน ไปจนถึงทำให้ผิวเสียสมดุลไปได้ด้วย วัตสันเลยอยากชวนเพื่อน ๆ มาบำรุงเติม Hyaluronic Acid ต่อผิวเพิ่มความชุ่มชื้นกันในบทความนี้

Highlight

  • ไฮยาลูรอน คืออะไร
  • กรดไฮยาลูรอนมีกี่ประเภท
  • ริ้วรอย เกิดจากอะไรได้บ้าง 
  • กรดไฮยาลูโรนิกทำมาจากอะไร
  • กรดไฮยาลูโรนิกทำงานอย่างไร
  • 10 ประโยชน์ของไฮยาลูรอน คืออะไร ช่วยในเรื่องอะไร
  • ถ้าใบหน้าขาดกรดไฮยาลูรอน จะเป็นอย่างไร
  • ไฮยาลูโรนิกใช้อย่างไร
  • Hyaluronic acid ห้ามใช้กับอะไร
  • คำถามพบบ่อย

ไฮยาลูรอน คืออะไร

กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) หรือ กรดไฮยาลูรอน คือ สารที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นเองได้ ถูกผลิตขึ้นบริเวณผิวหนังชั้นใน (Dermis) มีคุณสมบัติเด่นเป็นสารอุ้มน้ำ ช่วยให้ผิวหนังสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ ส่งผลให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นและเต่งตึง นอกจากนี้สารไฮยาลูรอนยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของกระดูกอ่อนตามข้อต่อในร่างกาย แต่เมื่อมีอายุเพิ่มขึ้นสารตัวนี้ก็จะลดลงไปเรื่อย ๆ ส่งผลให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อย หมองโทรมและไม่กระชับ รวมไปถึงเมื่อผิวขาดการดูแลอย่างเหมาะสมตั้งแต่แรก จะทำให้เกิดปัญหาริ้วรอยดูแลยากขึ้นได้ด้วย

กรดไฮยาลูรอนมีกี่ประเภท

ไฮยาลูรอน สายยาว (High molecular hyaluron : H-HA)

ไฮยาลูรอนที่มีขนาด 2000 kDa ขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาของประเภทไฮยาลูรอน มีคุณสมบัติกักเก็บความชุ่มชื้น ช่วยเติมเต็มริ้วรอยของผิวชั้นนอก ให้ดูเรียบเนียนมากขึ้น

ไฮยาลูรอน สายกลาง (Medium molecular hyaluron : M-HA)

ไฮยาลูรอนที่มีขนาด 1000-1400 kDa มีคุณสมบัติซึมลึกได้ถึงชั้นผิวหนังกำพร้า ช่วยเติมเต็มในส่วนของความชุ่มชื้น ช่วยลดริ้วรอย

ไฮยาลูรอน สายสั้น (Low molecular hyaluron : L-HA)

กรดไฮยาลูรอนที่มีขนาดเล็กที่สุด ประมาณ 52 kDa ซึ่งจะสามารถซึมลึกได้ถึงผิวชั้นลึก สามารถเติมเต็มริ้วรอยจากภายใน และกระตุ้นการสร้างไฮยาลูรอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Hyaluronic Acid คือ สารที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้น ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว

ริ้วรอย เกิดจากอะไรได้บ้าง

สาเหตุของการเกิดริ้วรอย สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยจากภายใน และปัจจัยจากภายนอก ดังนี้

ปัจจัยภายใน

อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดริ้วรอยที่มากขึ้นตาม

เมื่ออายุมากขึ้นส่งผลให้ปริมาณสารสำคัญใต้ผิวลดลง เช่น คอลลาเจน อิลาสติน หรือ ไฮยาลูรอน ซึ่งเป็นสารสำคัญร่างกายสามารถผลิตเองได้ ตัวช่วยให้ผิวอิ่มฟู นุ่ม ชุ่มชื้น สร้างความยืดหยุ่นให้ผิวดูเต่งตึงและแข็งแรง เมื่อร่างกายผลิตกรดไฮยาลูโรนิกได้ช้า และลดน้อยลงไปตามช่วงอายุที่เพิ่มมากขึ้น ผิวหนังจึงสูญเสียความชุ่มชื้นและยืดหยุ่น จนเกิดริ้วรอยก่อนวัยและความหย่อนคล้อยตามมา

ปัจจัยภายนอก

เครียดและพักผ่อนไม่เพียงพอ

ความเครียดสะสม และการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น นอกจากนั้นยังส่งผลต่อผิวด้วย เมื่อเวลาเราเครียดร่างกายจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ไปทำลายคอลลาเจนใต้ผิวเรา ทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยขึ้นได้

แสงแดดและมลภาวะ

แสงแดดและมลภาวะ อย่าง ฝุ่นละออง PM2.5 ควัน เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยเนื่องจากแสงแดดและมลภาวะเหล่านี้ มีอนุมูลอิสระที่สามารถทำร้ายผิว สามารถทำลายคอลลาเจน รวมไปถึงไฮยาลูรอนในผิวหนัง ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้

ดื่มน้ำไม่เพียงพอ

เมื่อร่างกายได้รับน้ำในปริมาณที่ไม่เพียงพอ อาจทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและมีปัญหาผิวแห้งตามมา เมื่อเกิดผิวแห้งมักเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าผิวที่ชุ่มชื้น ส่งผลกระทบให้เกิดเป็นริ้วรอยขึ้นได้ จึงควรดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอในแต่ละวัน ประมาณ 6-8 แก้ว หรือ 2-3 ลิตร

ใช้ครีมลดริ้วรอยที่ไม่ผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ

สารสำคัญที่อยู่ในครีมลดริ้วรอยที่ไม่ผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ อาจไม่ได้ผลในการช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวมากพอ เพราะไม่ได้ผ่านการวิจัยและทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ จึงควรเลือกครีมลดริ้วรอยที่มีสารสำคัญที่ช่วยฟื้นบำรุงผิว มีส่วนผสมของสารไฮยาลูรอน เพื่อช่วยในการเติมความชุ่มชื้น เพื่อคืนความหยืดหยุ่นให้กับผิวหน้า เช่น

  • Eucerin ยูเซอริน ไฮยาลูรอน เรเดียนซ์-ลิฟ ฟิลเลอร์ ลดริ้วรอยลึกด้วยไฮยาลูรอนโมเลกุลขนาดใหญ่ที่ช่วยเติม ริ้วรอยตื้นและไฮยาลูรอนโมเลกุลขนาดเล็กที่ช่วยเติมริ้วรอยลึก
  • L’Oreal ลอรีอัล ปารีส รีไวทัลลิฟท์ ไมโครเอพิเดอร์มิค ไฮยาลูรอน ไลน์ฟิลลิ่ง วอเตอร์ครีม ครีมบำรุงผิวหน้า ให้ผิวดูอิ่มเด้ง และ ลดเลือนริ้วรอยที่จุดสำคัญ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เพื่อผิวดูอิ่มเด้งจากภายใน 
  • Dermadict เดิมมาดิก ไฮยาลูรอน ซีรั่ม ฟื้นบำรุงผิว ลดเลือนริ้วรอย ฟื้นบำรุงผิวที่บอบบาง แพ้ง่าย ลดเลือนรอยแดงและรอยดำบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้น ปราศจากแอลกอฮอร์
Hyaluronic Acid คือ สารสำคัญที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับเพิ่มความชุ่มชื้น

กรดไฮยาลูโรนิกทำมาจากอะไร

กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) หรือกรดไฮยาลูรอน คือ สารที่จากเดิมได้มาจากสัตว์ เช่น ไก่ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงเมื่อนำมาใช้รักษาในคน เช่น เกิดการแพ้ บวมแดง ต่อมาจึงมีการสังเคราะห์กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ด้วยกระบวนการสังเคราะห์สารชีวโมเลกุล จากสารโมเลกุลเล็ก หรือเรียกว่า Biosynthesis โดยนำแบคทีเรีย Streptococcus มาสังเคราะห์เป็นกรดไฮยาลูโรนิก

กรดไฮยาลูโรนิกทำงานอย่างไร

กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) เป็นโมเลกุลที่ซับซ้อนคล้ายสายโซ่ยาว มีหน่วยเล็ก ๆ หลายหน่วยเชื่อมต่อกันจนกลายเป็นสารประกอบโมเลกุลขนาดใหญ่ และมีมวลโมเลกุลมากเรียกว่า พอลิเมอร์ (Polymer) ทำให้สารเคมีเกาะติดกันได้ จึงทำให้กรดไฮยาลูโรนิกสามารถกักเก็บน้ำได้ถึงครึ่งแกลลอน และเป็นพอลิเมอร์ที่ดีที่สุดสำหรับการดูดซับน้ำ มักจะนำมาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในสกินแคร์ รวมถึงการฉีดฟิลเลอร์ด้วย

10 ประโยชน์ของไฮยาลูรอน คืออะไร ช่วยในเรื่องอะไร

1. ช่วยจัดการริ้วรอย

ไฮยาลูรอน หรือ Hyaluronic Acid คือ สารที่มีคุณสมบัติเด่นในการเสริมการกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว ทำให้มีการนำมาเป็นส่วนผสมสำหรับเซรั่มและครีมลดริ้วรอยต่าง ๆ มากมาย เพราะสามารถซึมลึกได้ทุกชั้นผิว ซึ่งไฮยาลูรอนหลายประเภทมีคุณสมบัติในการซึมลึกต่างกันด้วย

2. มีประโยชน์ในเรื่องความชุ่มชื้น

ด้วยคุณสมบัติเสริมการกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว ไฮยาลูรอนจึงช่วยให้ผิวมีความนุ่มและฉ่ำมากขึ้น เนื่องจากเซลล์ผิวหน้าที่อิ่มตัวจากการกักเก็บน้ำของไฮยาลูรอน นอกจากนั้นไฮยาลูรอนยังมีส่วนช่วยทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย

3. ความกระจ่างใส

จากคุณสมบัติเสริมการกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน รวมไปถึงทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ผิวแข็งแรงมีสมดุลที่ดี ทำให้ผิวดูนุ่มลื่นเรียบเนียนและอิ่มเด้งด้วยน้ำในชั้นผิว เลยทำให้ผิวมีความกระจ่างใส ดูสุขภาพดีขึ้นด้วยนั่นเอง

4. ช่วยรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis of the knee)

เมื่อสารไฮยาลูโรนิกบริเวณกระดูกข้อต่อมีปริมาณลดน้อยลงจะทำให้กระดูกเกิดการเสียดสีกันจนเป็นเหตุให้เกิดอาการปวดบริเวณข้อต่อได้ กรดไฮยาลูโรนิก ที่ร่างกายผลิตตามธรรมชาติ จะทำหน้าที่เป็นตัวหล่อลื่นบริเวณข้อต่อของกระดูก และช่วยลดแรงกระแทกบริเวณข้อต่อ

5. การป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก

อย่างที่บอกไปว่าเมื่อสารไฮยาลูโรนิกบริเวณกระดูกข้อต่อมีปริมาณลดน้อยลง ทำให้กระดูกเกิดการเสียดสีกัน อาจจะส่งผลกระทบทำให้เกิดการสูญเสียมวลกระดูกได้ จึงต้องเสริมไฮยาลูโรนิกเข้าไปด้วย เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวหล่อลื่นบริเวณข้อต่อของกระดูก และช่วยลดแรงกระแทกบริเวณข้อต่อ

6. ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดบริเวณข้อ

การฉีดสาร Hyaluronic Acid (HA) หรือน้ำเลี้ยงข้อเทียม ที่มีลักษณะเป็นของเหลว มีความหนืดข้นจะช่วยรักษาโรคข้อเสื่อมต่าง ๆ ในระยะต้นถึงปานกลาง เพราะกรดไฮยาลูโรนิกทำหน้าที่เป็นตัวหล่อลื่นและดูดซับแรงกระแทกให้กับกระดูกอ่อนผิวข้อ

7. รักษาตาต้อกระจก

นอกจากช่วยดูแลเรื่องของผิวพรรณ เรื่องของกระดูกและข้อต่อ กรดไฮยาลูโรนิกยังช่วยรักษาตาต้อกระจกได้ด้วย โดยจักษุแพทย์จะฉีด กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) เข้าที่ตาเพื่อรักษาโรคต้อกระจก และกรดไฮยาลูโรนิกนี้ยังช่วยหล่อลื่น ปกป้องเยื่อบุกระจกตาได้

8. รักษาแผลในปาก

ไม่เพียงแค่ช่วยดูแลผิวพรรณ รักษากระดูกและข้อต่อ รวมไปถึงรักษาตาต้อกระจก กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ยังมีส่วนช่วยรักษาแผลในปากได้อีกด้วย โดยจะใช้ไฮยาลูรอน ที่มาในรูปแบบการทาเจล มาใช้ในการรักษาแผลในปาก

9. ช่วยสมานแผลและบรรเทาอาการแผลไฟไหม้

กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) หรือกรดไฮยาลูรอน คือ สารที่มีหน้าที่สำคัญในการช่วยให้ผิวอิ่มฟู นุ่ม ชุ่มชื้น สร้างความยืดหยุ่นให้ผิวดูเต่งตึง นอกจากนั้นยังสามารถช่วยควบคุมความรุนแรงของการอักเสบได้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะใช้สารนี้ทาลงไปบริเวณที่เกิดแผล เพื่อช่วยลดขนาดของบาดแผล ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ และช่วยเร่งให้บาดแผลหายเร็วขึ้น บรรเทาอาการปวด และอาจช่วยบรรเทาอาการของแผลไฟไหม้ได้

10. บรรเทาอาการตาแห้ง

ไฮยาลูรอน หรือ Hyaluronic Acid คือ สารที่ช่วยรักษาตาต้อกระจก และยังสามารถช่วยบรรเทาอาการตาแห้งได้ด้วย ซึ่งสารไฮยาลูรอนจะช่วยบรรเทาอาการตาแห้ง ที่มีสาเหตุมาจากที่ร่างกายผลิตน้ำตาได้น้อยลง โดยจะใช้ยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอน ช่วยลดอาการตาแห้งและช่วยให้สุขภาพดวงตาดีขึ้นมาได้

Hyaluronic Acid คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรสำหรับผิวหน้า

ถ้าใบหน้าขาดกรดไฮยาลูรอน จะเป็นอย่างไร

กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) หรือกรดไฮยาลูรอน คือ สารที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นเองได้ มีส่วนช่วยดูแลร่างกายหลายด้าน ทั้งบำรุงกระดูดข้อต่อ บำรุงดวงตา รวมไปถึงช่วยดูแลเรื่องของผิวพรรณด้วย เพราะมีหน้าที่สำคัญในการช่วยให้ผิวอิ่มฟู นุ่ม ชุ่มชื้น สร้างความยืดหยุ่นให้ผิวดูเต่งตึง ถ้าเกิดใบหน้าขาดกรดไฮยาลูรอนขึ้นมา ก็จะส่งผลให้ผิวหมองคล้ำ แห้งกร้าน ขาดน้ำ สูญเสียความชุ่มชื้น เมื่อทาครีมหรือบำรุงผิว จะรู้สึกว่าตัวครีมไม่ซึมลงสู่ผิว ทาครีมแล้วไม่ค่อยได้ผล และถ้าหากปล่อยให้ผิวขาดไฮยาลูรอนมาก ๆ จะส่งผลให้เกิดริ้วรอย ร่องลึก และทำให้ผิวแก่เร็วขึ้นด้วย

ไฮยาลูโรนิกใช้อย่างไร

  • ใช้เป็นส่วนผสมหลักของ ครีม เซรั่ม เอสเซนส์ รวมถึงเครื่องสำอาง เนื่องจากไฮยาลูโรนิกมีคุณสมบัติช่วยดูแลผิวเติมความชุ่มชื้น ให้ผิวหน้าเด้ง อิ่มฟูดูกระชับ และยังช่วยเติมเต็มปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • Garnier การ์นิเย่ ซากุระ โกลว์ ไฮยาลูรอน สลีปปิ้ง มาส์ก ไนท์ ครีม สูตรเข้มข้นด้วยสารสกัดจากซากุระเข้มข้น ช่วยทำให้ผิวพร้อมรับวันใหม่กับความกระจ่างอมชมพู
  • เซรั่ม Loreal ลอรีอัล ปารีส รีไวทัลลิฟท์ ไฮยาลูรอนิคแอซิด เซรั่มบำรุงผิวหน้า ช่วยเติมความชุ่มชื้น เพื่อผิวดูเด้งอิ่มฟู มอบความชุ่มชื้นให้ผิว และช่วยให้ผิวแลดูเปล่งประกายอย่างธรรมชาติ
  • Dermedy เดอร์มีดี ไฮยาลูรอน พลัส มาส์ก แผ่นมาสก์บำรุงผิวหน้าสูตรเพื่อผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ ด้วยนวัตกรรมการผสานเทคโนโลยีระหว่างสาร Hyarulon 8 โมเลกุล
  • วิตามินสำหรับรับประทาน ไฮยาลูรอนมาในรูปแบบอาหารเสริม จะช่วยเสริมในเรื่องของผิวพรรณ ทำให้ผิวชุ่มชื้น เนียนนุ่มขึ้น
  • รูปแบบของสารเติมเต็ม (Filler) ที่นิยมในคลินิกความงาม ฉีดเพื่อทดแทนส่วนสำคัญของโครงสร้างผิว ทั้งไฮยาลูรอน คอลลาเจน และอิลาสติน ที่ร่างกายสูญเสียไปเมื่ออายุมากขึ้น ช่วยคงสภาพผิวให้มีความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก รวมถึงปรับโครงสร้างใบหน้าได้เป็นธรรมชาติ

Hyaluronic acid ห้ามใช้กับอะไร

กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) หรือกรดไฮยาลูรอน คือ สารที่มีความปลอดภัยสูง สามารถพบได้ในชั้นผิวของมนุษย์ จึงไม่มีข้อห้ามในการใช้ร่วมกับสกินแคร์ประเภทอื่น ๆ และถึงแม้ไฮยาลูรอนจะเป็นสารที่ปลอดภัย แต่บางครั้งไม่ควรใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีกรดแรง เช่น Salicylic Acid หรือ Benzoyl Peroxide ซึ่งอาจทำให้ผิวแห้งและเกิดการระคายเคืองได้

และนี่ก็คือประโยชน์ของ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ที่วัตสันได้นำมาแบ่งปันเพื่อน ๆ ในบทความนี้ เรียกได้ว่า Hyaluronic Acid คือ สารสำคัญที่ช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นเต่งตึงเลย และว่ากันว่าการใช้ Hyaluronic acid ร่วมกับ Vitamin C จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย ชะลอวัย หรือการใช้ Hyaluronic acid ร่วมกับ Retinol จะช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ลดอาการระคายเคืองจากการทาสารผลัดเซลล์ผิวอย่างเรตินอลได้ด้วยนะ ใครอยากผิวสวยสุขภาพดี ลองเลือกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนมาใช้กันได้

คำถามพบบ่อย

Q: ไฮยาลูรอนิก แอซิด คืออะไร?

A: กรดไฮยาลูโรนิกหรือไฮยาลูรอน คือสารที่ร่างกายผลิตขึ้นเองตามธรรมชาติบริเวณผิวหนังชั้นใน มีคุณสมบัติเด่นในการอุ้มน้ำและกักเก็บความชุ่มชื้น ช่วยทำให้ผิวหนังเต่งตึง เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะผลิตสารนี้ได้น้อยลงทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและเกิดริ้วรอย

Q: กรดไฮยาลูรอนมีกี่ประเภท?

A: กรดไฮยาลูรอนแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ไฮยาลูรอนสายยาว (H-HA) ขนาด 2000 kDa ช่วยเติมเต็มริ้วรอยผิวชั้นนอก ไฮยาลูรอนสายกลาง (M-HA) ขนาด 1000-1400 kDa ซึมลึกถึงผิวหนังกำพร้า และไฮยาลูรอนสายสั้น (L-HA) ขนาด 52 kDa ซึ่งซึมลึกถึงผิวชั้นลึกที่สุด

Q: Hyaluronic Acid ช่วยเรื่องอะไร มีประโยชน์อย่างไร?

A: ประโยชน์ของ hyaluronic acids คือ ช่วยจัดการริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวกระจ่างใส นอกจากนี้ยังช่วยรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม ป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก ลดอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อ ช่วยรักษาตาต้อกระจก แผลในปาก บรรเทาอาการแผลไฟไหม้ และอาการตาแห้งได้อีกด้วย

Q: Hyaluronic Acid ใช้ทุกวันได้ไหม และวิธีใช้มีอะไรบ้าง?

A: ไฮยาลูโรนิกใช้ได้หลายรูปแบบ ทั้งเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างครีม เซรั่ม เอสเซนส์ และมาส์ก ใช้ในรูปแบบวิตามินสำหรับรับประทานเพื่อเสริมความชุ่มชื้นให้ผิว ซึ่งเป็นรูปแบบที่สามารถใช้ได้ทุกวัน  และไฮยาลูรอน สามารถใช้ในรูปแบบสารเติมเต็ม (Filler) ที่ใช้ในคลินิกความงามเพื่อเติมเต็มร่องลึกและปรับโครงสร้างใบหน้าได้อีกด้วย

Q: ไฮยาลูรอนไม่ควรใช้คู่กับอะไร และใช้ร่วมกับอะไรได้บ้าง ?

A: hyaluronic acid คือ สารที่มีความปลอดภัยสูง สามารถใช้ร่วมกับสกินแคร์ประเภทอื่นๆ ได้ แต่ไม่ควรใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีกรดแรงเช่น Salicylic Acid หรือ Benzoyl Peroxide การใช้ไฮยาลูรอนร่วมกับวิตามินซีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย และเมื่อใช้ร่วมกับ Retinol จะช่วยลดอาการระคายเคืองจากการทาสารผลัดเซลล์ผิว

https://www.eucerin.co.th/skin-concerns/ageing-skin/hyajelly_aging?srsltid=AfmBOooPHZ0wR2Q9rqf0FK2mh3_vTHFGDK4d2Dv9kuXbqRYp9JYqzPeO

https://skinx.app/content/skin/hyaluronic-acid

https://www.vsquareclinic.com/tips/hyaluronic-acid/

คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ

Previous

แพ้ครีม เป็นสิวหน้าแพ้ครีมเป็นแบบไหน ดูแลรักษาอย่างไร

Next

ผื่นแพ้อากาศหนาว สาเหตุ อาการ และวิธีป้องกันผื่นแพ้อากาศเย็นที่ถูกต้อง

Related Topics
Share
WHAT’S HOT
  1. 10 ร้านเสื้อผ้าในไอจีราคาถูก หลักร้อย ไม่ตกเทรนด์
  2. 12 สกินแคร์จาก CICA ส่วนผสมช่วยลดสิว ผิวระคายเคือง
  3. 10 สถานที่ขอพรเรื่องความรัก ช่วยคนโสดไม่ให้นก
  4. 15 ครีมบำรุงผิวขาว และครีมทาผิวขาวยี่ห้อไหนดี 2025
  5. แต่งหน้าเป๊ะปังด้วยเมคอัพ ชิ้นที่สอง1บาท
  6. วิธีลดพุง หน้าท้อง เร่งด่วนใน 7 วัน เพื่อหุ่นเฟิร์ม ฉบับเร่งด่วน!
  7. Hyaluronic Acid คืออะไร มีประโยชน์และช่วยบำรุงผิวอย่างไร
  8. แพ้ครีม เป็นสิวหน้าแพ้ครีมเป็นแบบไหน ดูแลรักษาอย่างไร
  9. ลำดับการลงสกินแคร์ที่ถูกต้อง ฟื้นบำรุงผิวหน้าให้สวยกระจ่างใส
  10. ผื่นแพ้อากาศหนาว สาเหตุ อาการ และวิธีป้องกันผื่นแพ้อากาศเย็นที่ถูกต้อง
  11. ผิวแห้งคันตกสะเก็ดเกิดจากอะไร ? รวม 9 ทริคดูแลผิวในหน้าหนาว
*/?>