โหลดแอปฯ
ดาวน์โหลด:
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอปวัตสัน
  • google-play.png
  • app-store.png
  • app-gallery.png
ค้นหาร้านค้า บทความน่าอ่าน
Watsons Services
0
ตะกร้า
Share

สิวหัวดำเป็นสิวอุดตันชนิดหนึ่ง ซึ่งแม้ว่าจะเป็นปัญหาผิวที่ไม่รุนแรง หรือก่ออันตรายต่อร่างกาย แต่พอมีสิวผุดขึ้นบนใบหน้า ทำให้หน้าดูไม่เนียนสวย ส่งผลให้สภาพผิวเสียแล้ว ยังมีผลต่อจิตใจ อาจจะทำให้รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมาได้ วันนี้วัตสันเลยอยากชวนเพื่อน ๆ มาดูแลผิวให้ไกลสิวกัน ส่วนจะมีวิธีจัดการกับปัญหาสิวหัวดำยังไงให้อยู่หมัด ลองตามไปดูกันต่อในบทความได้เลย

สิวหัวดำคืออะไร ?

สิวหัวดํา (Blackhead) เป็นสิวอุดตันประเภทหนึ่ง ซึ่งอยู่ในประเภทสิวไม่รุนแรง มีสาเหตุมาจากกการอุดตันของน้ำมันส่วนเกินบนผิว และสิ่งสกปรกอื่นที่หลงเหลืออยู่ในรูขุมขน แต่สิวหัวดำจะมีการอุดตันที่แตกต่างจากสิวประเภทอื่น ตรงที่ไม่มีเชื้อโรค หรือแบคทีเรีย ร่างกายจึงไม่มีการตอบสนองเพื่อกำจัดสิ่งอุดตันเหล่านั้น ทำให้สิวหัวดำมีลักษณะนูนขึ้นมาจากผิว เล็กน้อยและมีสีคล้ำ 

สิวหัวดำมีลักษณะอย่างไร ?

สิวหัวดำเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนด้วยไขมัน และเศษผิวหนังที่สะสมอยู่ พอสารเหล่านี้ สัมผัสกับอากาศ เลยทำให้เกิดเป็นหัวสีดำ หรือสีน้ำตาลเข้มบนผิวหนัง ที่เป็นส่วนของสิ่งสกปรกที่อุดตัน อยู่ในรูขุมขน สิวหัวดำมักจะมีขนาดประมาณ 0.1 – 3 มม. ดูใกล้ ๆ จะเห็นเป็นจุดตุ่มนูนเล็ก ๆ ที่ผิวหนัง ส่วนใหญ่จะพบมากบริเวณจมูก และแก้ม

สิวหัวดำเกิดจากการอุดตันในรูขุมขน

สาเหตุการเกิดสิวหัวดำ เกิดจากอะไรได้บ้าง ?

สิวหัวดำเกิดจากการอุดตันในรูขุมขน การอุดตันของเส้นขน เนื้อเยื่อ และไขมันภายในรูขุมขน เมื่อสิ่งเหล่านี้สัมผัสกับอากาศทำปฏิกิริยากับสารเมลานิน หรือเม็ดสีที่เซลล์ผิวหนัง ทำให้เปลี่ยนเป็นสีดำ บนผิวหนัง อาจเรียกสิวลักษณะนี้ว่า ‘สิวเสี้ยนหัวดำ’ ก็ได้ ซึ่งสิวหัวดำจะไม่มีอาการเจ็บใด ๆ สามารถพบได้มากบริเวณที่มีรูขุมขนกระจุกตัวรวมกันอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น จมูก หน้าผาก แก้ม คาง ฯลฯ 

นอกจากสิวหัวดำจะมีสาเหตุการเกิดมาจากการอุดตันในรูขุมขน การอุดตันของเส้นขน เนื้อเยื่อ และไขมันภายในรูขุมขน แล้วสัมผัสกับอากาศทำปฏิกิริยากับสารเมลานิน หรือเม็ดสีที่เซลล์ผิวหนัง ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นการกระตุ้นให้เกิดสิวหัวดำอยู่ด้วย มีทั้งปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอกดังนี้

ปัจจัยภายในที่กระตุ้นให้เกิดสิวหัวดำ

  • ร่างกายผลิตไขมันหล่อเลี้ยงผิวหนังมากเกินไป 
  • ความเครียด
  • กรรมพันธุ์ 
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่ทำให้มีการผลิตไขมันเพิ่มขึ้นในช่วงวัยรุ่น ช่วงมีประจำเดือน หรือระหว่างการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด 

ปัจจัยภายนอกที่กระตุ้นให้เกิดสิวหัวดำ

  • การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง หรือขนมหวานจัด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • สภาพอากาศ เช่น สิวขึ้นหลังจากโดนแดด มีการติดเชื้อแบคทีเรีย Propionibacterium acnes (P. acnes) ที่ผิวหนัง
  • ผลข้างเคียงจากการรับประทานยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ ลิเทียมฯลฯ 
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไปอุดตันรูระบายไขมัน จนกระตุ้นให้เกิดสิวหัวดำ หรือสิวอุดตันขึ้น
สิวหัวดำ

สิวหัวดำ และ สิวเสี้ยนหัวดำ มีความแตกต่างกันอย่างไร ?

สำหรับสิวหัวดำ และสิวเสี้ยนหัวดำ เป็นสิวที่มีขนาดเล็กเหมือนกัน แต่จะมีความแตกต่างกัน อยู่บ้าง อย่างสิวหัวดำ หรือสิวหัวดำแข็ง ๆ (Blackhead) จะเป็นสิวอุดตันที่มีลักษณะเป็นตุ่มขนาดเล็ก มีเคราตินและลิพิต ที่โผล่ออกมาจากผิวหน้า แล้วทำปฎิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ และเปลี่ยนเป็นสีเข้ม

ส่วนสิวเสี้ยนหัวดำ (Trichostasis Spinulosa) จะสามารถสังเกตได้จากสิวที่มีขนาดเล็ก มีจุดสีเข้ม และจะมีเส้นขนเล็ก ๆ ปะปนกับเคราติน และอุดตันอยู่ในรูขุมขนด้วย ซึ่งอาจจะมองไม่เห็น ด้วยตาเปล่า ต้องใช้การสัมผัส เวลาลูบจะรู้สึกเหมือนมีเสี้ยนเล็ก ๆ บนผิวหน้า

สิวหัวดำมักเกิดที่บริเวณใดบ้าง ?

สิวหัวดำสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย แต่ส่วนใหญ่มักจะพบได้มากบริเวณที่มีรูขุมขน กระจุกตัวรวมกันอยู่เป็นจำนวนมาก ผลิตน้ำมันมาก และมีการหลุดลอกของเซลล์ผิวไม่สม่ำเสมอ ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนได้ง่าย เช่น แก้ม หลัง จมูก คาง เป็นต้น ซึ่งสิวหัวดำในแต่ละบริเวณ เกิดจากสาเหตุคล้ายกัน มักใช้การรักษาแบบเดียวกันด้วย

กำจัดสิวหัวดำด้วยการบีบสิว


วิธีรักษาสิวหัวดำ ควรรักษาอย่างไรดี ?

1.กำจัดสิวหัวดำด้วยการบีบสิว หรือกดสิว

การกำจัดสิวหัวดำด้วยการบีบสิว หรือกดสิว ถึงแม้ว่าจะเป็นวิธีที่ง่ายในการกำจัดสิวหัวดำ แต่ก็เป็นวิธีที่ไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ เพราะการกดสิวหัวดำด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม จะทำให้เกิดการติดเชื้อ ได้ง่าย และยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดเป็นสิวอักเสบมากขึ้นกว่าเดิมด้วย 

2.การใช้ยาละลายสิวรักษาสิวหัวดำ

การรักษาด้วยยาละลายสิวจะมุ่งเน้นที่การผลัดเซลล์ผิว และลดการอุดตัน โดยมียาหลายกลุ่ม ที่มีประสิทธิภาพแตกต่างกัน และควรเลือกใช้ยาตามความเหมาะสมของสภาพผิว และคำแนะนำ ของแพทย์ หากใช้ยาแล้วมีอาการแพ้ หรือระคายเคืองรุนแรง ควรหยุดใช้ และปรึกษาแพทย์ผิวหนังทันที ซึ่งยาในการใช้ละลายสิวหัวดำ สามารถใช้ตัวยาได้หลายชนิด ดังนี้

  • ผลิตภัณฑ์กลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ (Retinoids) เช่น 
  • Provamed โปรวาเมด แอนตี้ แอคเน่ สปอต เจล เจลแต้มสิว สิวอักเสบ สิวหัวใหญ่ สิวหัวดำ และสิวหัวหนอง ผิวไม่แห้งลอก ช่วยฟื้นฟูผิว ลดการเกิดรอยแผลเป็นจากสิว อ่อนโยนไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
  • กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) เช่น
  • Oxe Cure  อ๊อกซีเคียว แอคเน่ เคลียร์ โพชั่น 15 มล. แป้งน้ำชมพูแต้มสิว ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ ให้รอยแดงดูจางลง ทำให้สิวแห้ง และยุบเร็ว พร้อมป้องกันการเกิดสิวใหม่ บำรุงผิวให้แลดูกระจ่างใส
  • เบนโซอิล เพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) 

3.เลเซอร์สิวหัวดำ

การรักษาสิวหัวดำด้วยเลเซอร์จะใช้พลังงานแสงแทนการเจาะด้วยเข็ม มีเครื่องเลเซอร์ หลากหลายประเภทให้เลือกใช้ เช่น CO2 Laser, V beam และ Pico Laser การเลเซอร์สิวหัวดำจะช่วยกำจัดสิวหัวดำที่ฝังลึก ทำให้สามารถกดสิวออกได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งช่วยลด รอยแดง และปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสขึ้น ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

4.การฉีดเมโสหน้าใส

การฉีดเมโสหน้าใส เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยในการรักษาสิวหัวดำ ด้วยการส่งสารบำรุง เข้าสู่ผิวโดยตรง แพทย์จะเลือกสูตรตามสภาพผิว และปัญหาสิวหัวดำ ซึ่งการรักษานี้ให้ผลเร็วกว่า การทายาทั่วไป แต่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกสูตรที่เหมาะสมกับสภาพผิว

5.การรักษาด้วยยารับประทาน

สำหรับสิวระดับปานกลางจนถึงรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาจ่ายยา 3 กลุ่ม ได้แก่ 

  • ยาปฏิชีวนะ (เช่น Erythromycin, Doxycycline) เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย 
  • ยากลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ (เช่น Isotretinoin) เพื่อควบคุมการผลิตไขมัน 
  • ยาปรับฮอร์โมน เช่น ยาคุมบางชนิด 

และการใช้รักษาด้วยการทานยาจะต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น โดยห้ามใช้ ในหญิงตั้งครรภ์เด็ดขาดเพราะอาจส่งผลต่อทารก

6.การฉีดรีจูรัน (Rejuran)

การฉีดรีจูรันเป็นวิธีรักษาสิวหัวดำด้วยสาร Polynucleotide 2% จาก DNA ปลาแซลมอน จะใช้วิธีฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนังแท้ เข้าไปซ่อมแซมผิว และฟื้นฟู skin barrier ให้แข็งแรง ลดการอักเสบ และการอุดตันของรูขุมขน ทำให้สิวหัวดำเกิดได้ยากขึ้น

ล้างหน้าให้สะอาดเป็นวิธีรักษาสิวหัวดำ

วิธีป้องกันการเกิดสิวหัวดำ


1.ล้างเครื่องสำอาง และล้างหน้าก่อนนอนให้สะอาดทั่วถึง

การล้างหน้าที่ไม่สะอาดหมดจดอาจจะทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตัน และเพิ่มความเสี่ยง ของการเกิดสิวหัวดำ หรือสิวเสี้ยนหัวดำ จึงควรล้างหน้าให้สะอาดทั่วถึง ด้วยการล้างหน้า 2 ครั้ง ครั้งแรกให้ใช้คลีนซิ่งล้างเครื่องสำอางตามปกติ จากนั้นให้ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้า

  • Eucerin ยูเซอริน โปร แอคเน่ โซลูชั่น ซอฟท์ คลีนซิ่ง โฟม
  • Acnes เมนโทลาทั่ม แอคเน่ส์ ดีพ วอช คลีนเซอร์ 50 กรัม โฟมล้างหน้าลดสิวอักเสบ คุมมัน  

2.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดสิวหัวดำและสิวเสี้ยนหัวดำ

สาเหตุหลักของการเกิดสิวหัวดำคือรูขุมขนที่เกิดการอุดตัน จึงควรเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม ของน้ำมัน เพราะทำให้อุดตันได้ง่าย และควรเลือกใช้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสาร BHA  AHA ที่เป็นกรดอ่อนจากธรรมชาติจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำความสะอาดรูขุมขน และช่วยลดการอุดตัน ลงได้

  • Oxe Cure อ๊อกซีเคียว แบลคเฮด เคลียริ่ง บีเอชเอ พีเอชเอ โทนเนอร์
  • Plantnery แพลนท์เนอรี่ ทีทรี แอคเน่ 2 บีเอชเอ ดรายอิ่ง โลชั่น 15 มล. แป้งน้ำทาสิว

1.เลือกใช้ครีมกันแดดที่เหมาะกับผิวมัน

สิวหัวดำ สิวเสี้ยนหัวดำ มีสาเหตุมาจากการอุดตัน ซึ่งไขมันส่วนเกินบนผิวหน้าอาจทำให้เกิด การอุดตันขึ้นได้ จึงควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า และควรเลือก ครีมกันแดดที่เนื้อบางเบา ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน และปราศจากน้ำมัน 

2.ควบคุมการกินอาหาร

ปัจจัยภายนอกที่มีส่วนกระตุ้นให้เกิดสิวหัวดำปัจจัยหนึ่ง ก็คือการทานอาหารที่มีไขมันสูง และอาหารที่มีรสหวานจัด เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสาเหตุของการผลิตน้ำมัน ใต้ผิวหนัง และทำให้ฮอร์โมนเสียสมดุล จึงควรเลี่ยงอาหารเหล่านี้ แล้วเปลี่ยนมาทานเป็นอาหารต้ม นึ่ง หรือย่าง และดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ เพื่อรักษาสมดุลผิวแทน

3.ดูแลความสะอาดที่นอน

เครื่องนอน ปลอกหมอน และที่นอน เป็นสิ่งที่ผิวของเราสัมผัสอยู่บ่อย ๆ จึงควรทำความสะอาด ที่นอน ชุดเครื่องนอนให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรือสิ่งสกปรก สะสม แล้วเข้าไปอุดตันในรูขุมขน กระตุ้นให้เกิดสิวขึ้นมาได้ 

4.ทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือ

นอกจากเครื่องนอน ปลอกหมอน ฯลฯ อีกสิ่งหนึ่งที่ผิวของเราสัมผัสอยู่บ่อย ๆ ก็คือโทรศัพท์มือถือ ซึ่งโทรศัพท์มือถือเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียค่อนข้างมากอยู่เหมือนกัน จึงควรควรทำความสะอาดหน้าจอโทรศัพท์ด้วยแอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับอุปกรณ์ IT เป็นประจำ

5.ลดการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น

มือของเราก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งรวมเชื้อโรคที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง เพราะในแต่ละวันเราต้องจับ และสัมผัสหลายสิ่งอย่างนับไม่ถ้วน อาจจะทำให้เชื้อโรค สิ่งสกปรกติดมือเรามาด้วย จึงไม่ควรนำมา สัมผัสกับใบหน้า นอกจากนั้นการสัมผัสบ่อย ๆ อาจกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันมากขึ้นด้วย และควรล้างมือบ่อย ๆ เป็นประจำ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรคด้วย

ทำความรู้จักกับ “สิวหัวดำ” มาพอสมควรแล้ว พอจะรู้แล้วว่าสิวหัวดำ เกิดมาจากการอุดตัน ของสิ่งอุดตันสะสมแล้วทำปฎิกิริยากับอากาศทำให้หัวสิวเกิดเป็นสีเข้ม จึงควรดูแลรักษาความสะอาด ของผิวให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดการอุดตัน ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รวมไปถึงเลือกสกินแคร์ที่ไม่อุดตันผิว ซึ่งที่ Watsons ก็มีสกินแคร์เนื้อบางเบา อ่อนโยน ไม่อุดตัน ให้เลือกมากมายเลย สามารถไปช้อปกันได้ที่ร้านค้าและออนไลน์เลยน้าาา

ข้อมูลอ้างอิง

https://www.eucerin.co.th/skin-concerns/acne-prone-skin/acne-blackheads-removal?srsltid=AfmBOoryAbP0Ho7rMdeNd76hYzjzP3WOro-atuqjyIB56rHc9pvi00JU

https://skinx.app/content/acne/blackheads

https://www.pobpad.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%B3-%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%88


คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ

Previous

ส้นเท้าแตกเกิดจากอะไร พร้อมครีมทาส้นเท้าแตกตัวดัง

Next

10 วิธีดูแลหนังศีรษะแห้ง ลอก คัน เป็นขุย ใช้อะไรดี?

Related Topics
Share
*/?>