หลายคนคงเคยเห็นเมนูอาหารสีม่วงน่าทาน เสิร์ฟเป็นถ้วยแต่งหน้าด้วยผลไม้หรือธัญพืชหลาย ๆ ชนิด อย่าง “Acai Bowl” มาบ้าง เรียกได้ว่าอาซาอิคือหนึ่งในเมนูอาหารยอดฮิตของสายสุขภาพด้วย เพราะเป็นอาหารเช้าอิ่มท้องกำลังดี แถมมีปริมาณน้ำตาลต่ำ วิตามินสูง และที่เรียกว่าเมนู Acai Bowl ก็เพราะว่าเมนูนี้มีส่วนผสมหลักมาจากเจ้าผลไม้ที่ชื่อว่า “อาซาอิ” คือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ชนิดหนึ่ง ที่อุดมไปด้วยสารอาหารเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย บทความนี้วัตสันเลยอยากชวนเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับเบอร์รี่ Superfood อย่างอาซาอิว่าคืออะไรเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อย อาซาอิมีประโยชน์ยังไงบ้าง ลองตามไปดูกันเลย
อาซาอิ (Acai) คืออะไร?
อาซาอิ (Acai) หรืออาซาอิเบอร์รี่ (Acai Berry) คือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในป่าดิบชื้นประเทศแถบอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ อาซาอิคือผลไม้ที่มีผลลักษณะกลม เนื้อด้านในสีเหลืองหุ้มด้วยเปลือกสีม่วงเข้ม มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์คล้ายไวน์แดงผสมดาร์กช็อกโกแลต อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น วิตามินบี 1, วิตามินบี 2, วิตามินบี 3, วิตามินซี, วิตามินอี, ธาตุเหล็ก, โพแทสเซียม และยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
ทำไม อาซาอิ (Acai) ถึงเป็นที่นิยมในหมู่คนรักสุขภาพ?
อย่างที่ได้บอกไปว่าอาซาอิ (Acai) คือผลไม้ที่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย และยังมีโอเมก้า 3 กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และกรดโอเลอิก ซึ่งเป็นกรดไขมันชนิดเดียวกันกับที่พบในน้ำมันมะกอกที่เชื่อกันว่าดีต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน นอกจากนั้นอาซาอิคือผลไม้ที่ถือได้ว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระสูงสุดในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มีประโยชน์ทั้งช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูอ่อนเยาว์ และยังมีกากใยสูงดีต่อระบบขับถ่าย แถมยังให้แคลเซียมสูง มีส่วนช่วยให้กระดูก หัวใจ กล้ามเนื้อ เส้นประสาทแข็งแรง และสุขภาพดี และเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย ในหมู่คนรักสุขภาพเลยนิยมเลือกทานอาซาอิ เพื่อบำรุงสุขภาพ และลดน้ำหนักด้วย
Acai Berry คืออะไร กินอย่างไร?
การรับประทานอาซาอิเบอร์รี่ สามารถเลือกทานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งอาซาอิแบบแห้ง แช่แข็ง แบบผง หรือน้ำผลไม้ ซึ่งหนึ่งในวิธีการทานอาซาอิเบอร์รี่ยอดนิยมก็คือ นำไปทำเป็นเมนู “Acai Bowl” โดยการนำอาซาอิเบอร์รี่แช่แข็งมาปั่นรวมกับโยเกิร์ต และน้ำผึ้งจนเนื้อเนียนละเอียด พร้อมเพิ่มท็อปปิ้งเป็นกราโนรา อัลมอนด์ ผลไม้ และธัญพืชต่าง ๆ นอกจากนั้นก็ยังมีการแปรรูปอาซาอิเบอร์รี่ ไปรับประทานเป็นเมนูอื่น ๆ อีกหลายอย่าง เช่น ไอศครีมผลไม้ สมูทตี้ผลไม้ ฯลฯ
สำหรับการทานอาซาอิเบอร์รี่ในรูปแบบของอาหารในชีวิตประจำวันนั้นมักไม่เป็นอันตราย แต่สำหรับคนที่เลือกทานอาซาอิในรูปแบบอาหารเสริม ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพียงพอที่จะยืนยันความปลอดภัยของการบริโภค ในคนที่ต้องการใช้ผลไม้ชนิดนี้ เพื่อรักษาหรือป้องกันโรคต่าง ๆ ควรปรึกษาแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัดกันด้วยนะคะ
7 คุณประโยชน์ของอาซาอิคืออะไรบ้าง?
1. ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
อาซาอิคือผลไม้ที่มีเปลือกสีม่วงเข้ม ซึ่งผลไม้ที่มีสีม่วง แดง น้ำเงิน มักจะอุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ การเลือกทานอาซาอิเป็นประจำ เลยมีส่วนช่วยในการป้องกันเซลล์ในร่างกายไม่ให้ได้รับความเสียหายจากสารอนุมูลอิสระได้ นอกจากนั้นยังช่วยบำรุงเรื่องผิวพรรณให้กระชับเนียนนุ่ม แลดูอ่อนเยาว์ด้วย
2. ช่วยลดน้ำหนัก
หลายคนมักจะเลือกทานอาซาอิเพื่อช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก คุมอาหาร เพราะอาซาอิคือผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย ในอาซาอิเบอร์รี่ขนาด 100 กรัม มีคาร์โบไฮเดรตเพียง 4 กรัม และน้ำตาลเพียงแค่ 2 กรัมเท่านั้นเอง นอกจากนั้นอาซาอิยังเป็นผลไม้ที่มีใยอาหารสูง ซึ่งประโยชน์ของใยอาหาร มีส่วนช่วยในการควบคุมความหิว และทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้นด้วย
3. บำรุงสมองและความจำ
อาซาอิ คือผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงสุดในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ซึ่งมีผลวิจัยหนึ่งกล่าวไว้ว่า การรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ และโรคพาคินสันได้ นอกจากนั้นอาซาอิยังมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) สารที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างความจำ และช่วยปกป้องสมองจากอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุทำให้สมองเสื่อมไวอยู่อีกด้วย
4. ปรับระดับคอเลสเตอรอล
ว่ากันว่าอาซาอิคือผลไม้ที่อาจมีส่วนช่วยปรับระดับคอเลสเตอรอลให้ลดลงอยู่ในระดับที่สมดุลได้ เมื่อทานในปริมาณที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง การทานอาซาอิเป็นประจำเลยอาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ภาวะความดันเลือดสูง และโรคเบาหวานในผู้ที่มีภาวะอ้วนได้ และการศึกษาวิจัยในปี 2011 ที่ทำการศึกษาในกลุ่มคน อ้วน 10 คน ระบุว่าคนในกลุ่มมีคอเลสเตอรอลชนิดความหนาแน่นต่ำ หรือคอเลสเตอรอลไม่ดี ในร่างกายน้อยลงหลังจากดื่มสมูทตี้อาซาอิวันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 1 เดือนด้วย
5. เสริมสร้างการทำงานของเลือด หัวใจ และสมอง
อาซาอิคือผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง และสูงที่สุดในหมู่ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ด้วยกันด้วย ซึ่งคุณสมบัติหนึ่งของสารต้านอนุมูลอิสระ คือมีส่วนช่วยป้องกันสมองถูกทำลายเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้นได้ และมีส่วนช่วยในการกำจัดของเสีย หรือของไร้ประโยชน์ให้หมดจากเซลล์ ทำให้เซลล์กลับมาสะอาดอีกครั้ง เพื่อป้องกันการทำงานที่ผิดปกติ และเสริมสร้างการทำงานของระบบเลือด หัวใจ รวมถึงสมอง นอกจากนั้นอาซาอิยังมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) สารที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างความจำ และช่วยปกป้องสมองจากอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุทำให้สมองเสื่อมไวอยู่ด้วย
6. ช่วยสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกัน
นอกจากสารต้านอนุมูลอิสระ และสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) ที่มีมากในเปลือกอาซาอิแล้ว Acai berry คือเบอร์รี่ที่อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะวิตามินซีที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของเม็ดเลือดขาว และกระบวนการทำลายเชื้อโรค และเมื่อระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้นร่างกายของเราก็จะต่อสู้กับอนุมูลอิสระ และช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ได้อย่างดีขึ้นด้วย
7. ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร
อาซาอิ คือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีใยอาหารสูงเช่นเดียวกับผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ชนิดอื่น ๆ จึงมีส่วนช่วยในเรื่องของการขับถ่าย ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี และเป็นปกติ นอกจากนั้นอาซาอิยังมีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติก ซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์ดีในลำไส้ ช่วยให้ลำไส้เกิดความสมดุล ช่วยขับสารพิษในร่างกาย และลดการดูดซึมสารในกลุ่มไขมัน จึงช่วยควบคุมน้ำหนักได้ด้วย
อาซาอิ vs ผลไม้อื่นแตกต่างกันอย่างไร?
1.แหล่งกำเนิด
- อาซาอิ (Açaí): คือผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบลุ่มน้ำอเมซอน ประเทศบราซิล
- บลูเบอร์รี/สตรอว์เบอร์รี: พบมากในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชียบางประเทศ
2.สี และรสชาติ
- อาซาอิ: คือผลไม้ที่สีม่วงเข้มเกือบดำ รสชาติผสมระหว่าง โกโก้+เบอร์รี+กาแฟอ่อน ๆ
- บลูเบอร์รี: สีม่วงน้ำเงิน รสหวานอมเปรี้ยว
- สตรอว์เบอร์รี: สีแดงสด รสหวานเปรี้ยวสดชื่น
3.คุณค่าทางโภชนาการ
- อาซาอิ: คือผลไม้ที่อุดมด้วยแอนโทไซยานิน (สารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก) มี กรดไขมันโอเมก้า 3, 6, 9 ไฟเบอร์สูง ช่วยระบบขับถ่าย
- บลูเบอร์รี: เด่นเรื่องสารต้านอนุมูลอิสระเช่นกัน แต่มีน้ำตาลมากกว่าอาซาอิ
- สตรอว์เบอร์รี: วิตามินซีสูงมาก ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและบำรุงผิว
4.แบบการบริโภค
- อาซาอิ: คือผลไม้ที่มักเจอในรูปแบบ ผงแช่แข็ง (frozen pulp), ผง (powder), น้ำผลไม้
- เบอร์รีอื่น ๆ: นิยมทานสด แปรรูปเป็นน้ำผลไม้ แยม หรืออบแห้ง
5.ราคาและการเข้าถึง
- อาซาอิ: ราคาสูงกว่าเพราะนำเข้า และต้องเก็บรักษาในรูปแบบแปรรูป
- บลูเบอร์รี/สตรอว์เบอร์รี: หาซื้อง่ายในซูเปอร์มาร์เก็ต และราคาย่อมเยากว่า
คำถามที่พบบ่อย
Q: อาซาอิ โบวล์ทำให้อ้วนไหม?
A: ขึ้นอยู่กับส่วนผสม ถ้าใส่น้ำผึ้ง กราโนล่า หรือผลไม้หวานมาก ๆ แคลอรี่อาจสูง ควรเลือกท็อปปิ้งที่ดีต่อสุขภาพ
Q: อาซาอิเหมาะกับมังสวิรัติหรือวีแกนไหม?
A: เหมาะมาก เพราะเป็นผลไม้ธรรมชาติ 100% และเข้ากับไลฟ์สไตล์ plant-based
Q: อาซาอิทานได้ทุกวันหรือไม่?
A: ทานได้ แต่ควรอยู่ในปริมาณพอดี เพราะบางเมนูมีน้ำตาลสูง
Q: หญิงตั้งครรภ์ทานอาซาอิได้ไหม?
A: โดยทั่วไปสามารถทานได้ แต่ควรเลือกอาซาอิที่สะอาด ปลอดภัย และไม่ผสมสารปรุงแต่ง ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
Q: ควรทานอาซาอิวันละเท่าไร?
A: ไม่มีกำหนดตายตัว แต่โดยทั่วไปประมาณ 100–200 กรัมต่อวันถือว่าเพียงพอ ไม่ควรทานมากเกินไปเพื่อเลี่ยงแคลอรี่ส่วนเกิน
ทำความรู้จักกับ “อาซาอิ” (Acai) มาแล้ว ก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอาซาอิถึงเรียกได้ว่า เป็นผลไม้ Superfood เพราะอุดมไปด้วยสารอาหาร ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยบำรุงร่างกายในหลาย ๆ ด้าน รวมไปถึงยังเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับการลดน้ำหนัก ดูแลรูปร่างอีกด้วย สำหรับสายเฮลตี้ที่อยากดูแลร่างกาย เป็นสายสุขภาพดี หุ่นเป๊ะ การทานอาซาอิในมื้ออาหารน่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยดูแลสุขภาพของเพื่อน ๆ ได้ดีเลย
ข้อมูลอ้างอิง
Acai Berry ผลไม้ชั้นดี กับการลดน้ำหนัก ลดโรค https://www.pobpad.com/acai-berry-ผลไม้ชั้นดี-กับการลดน
อาซาอิ คืออะไร? 7 ประโยชน์ของอาซาอิเบอร์รี่ Superfood! ที่สายเฮลตี้ต้องรู้ https://www.cosmenet.in.th/cosme-intrend/53135
Is Acai Good for Losing Weight? https://www.medicinenet.com/is_acai_good_for_losing_weight/article.htm
คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ
- 10 สเปรย์ล็อคผม 2025 ล็อคผมแน่น จะทรงไหนก็เอาอยู่
- มัดรวม 3 ไอเดีย ทรงผมเวนดี้ ทรงผมสั้นสไลด์เลเยอร์ เปลี่ยนลุกให้คูลแอนด์คิวท์
- 10 มีดโกนผู้หญิงยี่ห้อไหนดี โกนได้ทุกส่วน ไม่บาดผิว
- รังแค สัญญาณ ที่บอกว่าหนังศีรษะของคุณต้องได้รับการดูแล จริงจัง
- เปิดตัวน้องใหม่ Hada Labo+ จากบ้าน Hada Labo ไอเท็มเด็ดฟื้นผิวให้ Perfect หลังทุกหัตการ
