การรับประทานยาคุม คือ วิธีคุมกำเนิดซึ่งเป็นที่นิยมของผู้หญิง แต่หลายคนคงยังมีคำถามในใจว่า แล้วควรใช้ยาคุมฮอร์โมนเดี่ยว ยี่ห้อไหนดี? ยาคุมฮอร์โมนต่ำ มียี่ห้ออะไรบ้าง? แล้วต้องรับประทานอย่างไร ยาคุมจึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด ก่อนอื่นจึงควรรู้ถึงประโยชน์ และผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดกันก่อน บทความนี้วัตสันอยากชวนสาว ๆ ไปทำความรู้จักกับ “ยาคุมกำเนิด” ให้มากขึ้น พร้อมลบความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการทานยาคุมกำเนิดไปด้วย เพื่อเป็นการตัดสินใจว่าควรใช้ยาคุมฮอร์โมนเดี่ยว ยี่ห้อไหนดี? และยาคุมกำเนิดนั้นเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณหรือเปล่า
บทที่ 1 ยาคุมกำเนิดคืออะไร
ก่อนที่เราจะรู้ว่ายาคุมฮอร์โมนเดี่ยว ยี่ห้อไหนดี? เรามาทำความรู้จักกับยาคุมกำเนิดก่อนดีกว่า ว่ามันคืออะไร “ยาคุมกำเนิด” คือยาที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเพศหญิง ทั้งยังเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสโตเจน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ โดยยับยั้งการตกไข่ เปลี่ยนแปลง เยื่อบุโพรงมดลูกให้มีสภาพไม่เหมาะต่อการฝังตัวของตัวอ่อน และทำให้มูกที่ปากมดลูกมีความเป็นด่างเหนียวข้นขึ้น ทำให้อสุจิไม่สามารถเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ รวมทั้งส่งผลต่อการเคลื่อนไหวท่อนำไข่ ทำให้ไข่ไม่สามารถเดินทางไปที่มดลูก
ยาคุมกำเนิดมีฮอร์โมนในปริมาณเล็กน้อย ซึ่งคล้ายกับฮอร์โมนที่ร่างกายของเราใช้เป็นส่วนหนึ่งของรอบประจำเดือน ฮอร์โมนในยาคุมกำเนิดทำงานเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์โดยการหยุดการตกไข่ หรือการปล่อยไข่ออกจากรังไข่ ยาคุมกำเนิดบางชนิดยังเปลี่ยนเยื่อบุโพรงมดลูกชั่วคราว ดังนั้น จึงมีโอกาสน้อยที่ไข่จะปฏิสนธิ จึงเป็นสาเหตุที่เราต้องรู้ว่ายาคุมฮอร์โมนเดี่ยว ยี่ห้อไหนดี?
บทที่ 2 ประเภทของยาคุมกำเนิด
ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined estrogen-progestin oral contraceptives (COCs)
ยาคุมกำเนิดชนิดนี้จะมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงมาก ด้วยส่วนประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสโตเจนรวมกันในเม็ดเดียว และยังมีผลดีทำให้ประจำเดือนมาตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ อาจปวดประจำเดือนน้อยลงได้
ข้อดีของยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
- ทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ มีส่วนช่วยควบคุมรอบเดือน และลดปริมาณเลือดประจำเดือน ทำให้มีประจำเดือนน้อยลงและปวดประจำเดือนลดลง
- ช่วยลดอาการไม่สบายตัวก่อนมีประจำเดือน (Premenstrual Syndrome – PMS) อาจช่วยบรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน เช่น อารมณ์แปรปรวน ปวดท้อง และอาการบวมน้ำได้
- ช่วยให้รอบเดือนเป็นปกติ ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้รอบเดือนกลับมาเป็นปกติสำหรับผู้ที่มีปัญหารอบเดือนไม่ปกติ
- ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดี หากรับประทานอย่างสม่ำเสมอ และถูกต้อง จะมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการตั้งครรภ์
- ลดสิว และอาการอื่น ๆ มีส่วนช่วยช่วยลดสิว ลดอาการหน้ามัน และอาการแสดงออกของภาวะเพศชายเกินในกลุ่มถุงน้ำรังไข่หลายใบ
- ง่ายต่อการใช้และหยุดใช้ ยาคุมกำเนิดชนิดนี้ง่ายต่อการใช้ และหากมีผลข้างเคียงก็จะหายไปได้รวดเร็วเมื่อหยุดใช้
ข้อเสีย และผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
- ความเสี่ยงลิ่มเลือดอุดตัน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ (เช่น ในขา) หรือหลอดเลือดในปอด
- ปวดหัว ฮอร์โมนในยาคุมอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียง รู้สึกปวดหัวขึ้นได้
- คลื่นไส้ และอาเจียน อาจเกิดผลข้างเคียงจากการปรับตัวของร่างกายต่อฮอร์โมนในยาคุม
- คัดตึงเต้านม เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยในช่วงแรกของการใช้ยาคุม
- มีเลือดออกกะปริดกะปรอย อาจเป็นผลมาจากระดับฮอร์โมนที่ไม่สม่ำเสมอ
- อารมณ์แปรปรวน ฮอร์โมนยาคุมอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงนี้ขึ้นได้ แต่เป็นผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในบางคน
- น้ำหนักเพิ่ม แม้ว่ายาคุมจะไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยตรง แต่ในบางคนอาจมีอาการอยากอาหารเพิ่มขึ้น
ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (Progestrogen-only pills (POP)
ยาคุมกำเนิดชนิดนี้จะมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียว เรียกอีกอย่างว่าเม็ดขนาดเล็ก ยาคุมกำเนิดชนิดนี้ในหนึ่งแผงจะมีทั้งหมด 28 เม็ด ทุกเม็ดเป็นยาฮอร์โมน สามารถทานได้ทุกวันโดยไม่ต้องหยุด เมื่อทานหมดแล้วก็สามารถทานยาคุมกำเนิดแผงใหม่ต่อได้เลย เป็นยาคุมกำเนิดชนิดที่ผลิตออกมาเพื่อลดอาการข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจน
ข้อดีของยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว
- เหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ เนื่องจากยาคุมชนิดนี้มีเพียงฮอร์โมนโปรเจสติน ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดในการใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน เช่น ผู้ที่เคยมีลิ่มเลือดอุดตัน มีภาวะสโตรก โรคหัวใจ และหลอดเลือด หรือมีประวัติเป็นมะเร็งเต้านมหรือเยื่อบุโพรงมดลูก
- ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูง หากใช้ยาอย่างถูกต้อง และสม่ำเสมอ ยาคุมชนิดนี้มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการตั้งครรภ์
- ช่วยลดปริมาณเลือดประจำเดือน และอาการปวดท้องประจำเดือน ยาคุมชนิดนี้ช่วยให้ประจำเดือนมาน้อยลง และมีอาการปวดท้องประจำเดือนน้อยลง
- ช่วยลดสิว และขนดก ยาคุมชนิดนี้ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้ลดการเกิดสิว และขนดก
- สามารถตั้งครรภ์ได้เมื่อหยุดยาคุม เมื่อหยุดใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวแล้ว ยังคงสามารถตั้งครรภ์ได้ตามปกติ
ข้อเสีย และผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว
ในคนที่ใช้ยานี้มักพบปัญหาภาวะเลือดออกกะปริดกะปรอย (spotting) หรือมีเลือดออกระหว่างรอบเดือน (breakthrough bleeding) รอบประจำเดือนสั้นลง และปริมาณเลือดประจำเดือนลดลง โดยพบอาการได้บ่อยโดยเฉพาะเมื่อลืมรับประทานยา
ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฉุกเฉิน (Emergency contraception pill)
เป็นยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนในปริมาณที่สูง ใช้รับประทานหลังจากมีเพศสัมพันธ์เพื่อลดโอกาสตั้งครรภ์ ส่วนเรื่องยาคุมกำเนิดฉุกเฉินกินตอนไหน สามารถทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินได้หลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ถูกข่มขืน ถุงยางรั่ว ลืมทานยาคุมกำเนิด เป็นต้น
ข้อดีของยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฉุกเฉิน
- สะดวก และง่ายต่อการเข้าถึง เป็นยาคุมฉุกเฉินแบบเม็ด สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยา หรือคลินิกต่างๆ
- ป้องกันการตั้งครรภ์ในกรณีฉุกเฉิน เหมาะสำหรับใช้หลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันหรือมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ถุงยางรั่ว หรือลืมรับประทานยาคุมกำเนิดตามปกติ ฯลฯ
- ลดโอกาสในการตั้งครรภ์ หากรับประทานยาอย่างถูกต้องและทันเวลา สามารถช่วยลดโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ถึง 75-85%.
- ระยะเวลาการใช้สั้น ยาคุมฉุกเฉินเป็นการใช้ยาเพียงระยะสั้น ดังนั้นจึงไม่มีข้อห้ามหรือข้อจำกัดที่ยุ่งยากในการใช้ยา
ข้อเสีย และผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฉุกเฉิน
- คลื่นไส้ และอาเจียน เป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุด เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินมีปริมาณฮอร์โมนสูง
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ อาจมาเร็วขึ้น ช้าลง หรือมีเลือดออกระหว่างรอบเดือน
- เลือดออกผิดปกติ อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยระหว่างรอบเดือน
- ปวดท้อง อาจมีผลข้างเคียงอาการปวดท้องคล้ายประจำเดือน
- เจ็บคัดเต้านม เป็นผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในบางราย
- ปวดศีรษะ หลังการใช้ยา อาจมีผลข้างเคียงจากการทาน ทำให้อาจมีอาการปวดศีรษะ
- เสี่ยงตั้งครรภ์นอกมดลูก เป็นผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น หากใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ
- ไม่ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ยาคุมฉุกเฉินช่วยป้องกันการตั้งครรภ์เท่านั้น ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
ตัวยาสำคัญในยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined estrogen-progestin oral contraceptives (COCs) ในแต่ละเม็ดมีฮอร์โมน 2 ชนิด คือฮอร์โมนกลุ่มเอสโตรเจน (estrogens) ผสมกับฮอร์โมนกลุ่มโพรเจสติน (progestins) โดยมีสัดส่วนแตกต่างกัน ดังนี้
ฮอร์โมนในกลุ่มเอสโตรเจนที่มีในยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม อาจเป็น ethinyl estradiol, mestranol หรือ estradiol (อาจอยู่ในรูป estradiol valerate) แต่ส่วนใหญ่มักเป็น ethinyl estradiol ซึ่งในอดีตมีปริมาณยาค่อนข้างสูง เช่น ethinyl estradiol 50 ไมโครกรัม ทำให้มีอาการไม่พึงประสงค์มาก
ในปัจจุบันส่วนใหญ่จะมีปริมาณ ethinyl estradiol ไม่เกิน 35 ไมโครกรัม บางตำรับอาจมีแค่ 15-20 ไมโครกรัมเท่านั้น เนื่องจากการใช้เอสโตรเจนขนาดต่ำจะลดผลข้างเคียงลงไปได้มาก โดยเฉพาะอาการคลื่นไส้ ท้องอืด และเจ็บคัดเต้านม แต่ทั้งนี้อาจมีเลือดออกผิดปกติที่คล้ายประจำเดือนมาแบบกะปริบกะปรอยได้ เพราะฮอร์โมนแต่ละชนิดในกลุ่มเอสโตรเจนให้ผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้พอ ๆ กัน เมื่อใช้ในปริมาณที่มีในผลิตภัณฑ์
ส่วนฮอร์โมนในกลุ่มโพรเจสตินที่มีในยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมนั้นอาจเป็น levonorgestrel, norethisterone, gestodene, desogestrel, drospirenone, nomegestrol, dienogest หรือ cyproterone acetate ฮอร์โมนเหล่านี้ให้ผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีพอ ๆ กัน
หลักการทำงานของยาคุม
ยาคุมกำเนิดมีหลายชนิด แต่โดยทั่วไปจะออกฤทธิ์หลัก ๆ ในการยับยั้งการตกไข่ การเปลี่ยนแปลงเยื่อบุมดลูก และการเพิ่มความหนืดของมูกที่ปากมดลูก การทำงานของยาคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการตั้งครรภ์ ซึ่งยาเม็ดคุมกำเนิดออกฤทธิ์โดยการใช้ฮอร์โมนเพศหญิง (เอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน) เพื่อยับยั้งการตกไข่ ลดการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุมดลูก และเพิ่มความหนืดของมูกที่ปากมดลูก ทำให้การปฏิสนธิ และการฝังตัวของตัวอ่อนเกิดขึ้นได้ยาก
บทที่ 3 ประโยชน์ของยาคุมกำเนิด
แน่นอนอยู่แล้วว่ายาคุมกำเนิดทุกชนิดนอกจากจะช่วยคุมกำเนิด และลดอาการปวดประจำเดือนแล้วนั้น ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้านอื่น ๆ อีก ดังนี้
- ยาคุมกำเนิดช่วยลดสิว
- ยาคุมกำเนิดช่วยป้องกันกระดูกบาง
- ยาคุมกำเนิดช่วยลดการเกิดซีสต์ในเต้านม และรังไข่ ลดการเกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
- ยาคุมกำเนิดช่วยลดการติดเชื้อรุนแรงในรังไข่ ท่อนำไข่ และมดลูก
- ยาคุมกำเนิดช่วยป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง
รวม 7 ยาคุมฮอร์โมนต่ำ มียี่ห้ออะไรบ้างที่แนะนำประจำปี 2025
- ยาคุมฮอร์โมนต่ำ ยี่ห้อยาซ (Yaz) หรือยาปรับฮอร์โมน ee20d
ยาคุมฮอร์โมนต่ำ ยี่ห้อยาซ (Yaz) เป็นยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน (oral contraceptive pill) ที่ประกอบด้วยฮอร์โมนสองชนิด คือเอทินิลเอสทราไดออล (ethinyl estradiol) และดรอสไพรโนน (drospirenone) นอกจากใช้เป็นยาคุมกำเนิดแล้ว ยา Yaz ยังสามารถใช้รักษาสิว และอาการก่อนมีประจำเดือน (PMDD) ได้อีกด้วย
วัตถุประสงค์ในการใช้ ช่วยคุมกำเนิด ลดสิว ลดหน้ามัน ลดขนดก
วิธีการกิน ครั้งแรก ให้รับประทานยา Yaz สีชมพูอ่อนวันละ 1 เม็ด โดยเริ่มรับประทานในวันอาทิตย์แรกหลังจากเริ่มมีประจำเดือน ควรรับประทานยา Yaz สีชมพูอ่อนวันละ 1 เม็ดติดต่อกันเป็นเวลา 24 วัน ตามด้วยยาเฉื่อยสีขาว 1 เม็ดทุกวันในวันที่ 25 ถึง 28
ปริมาณยา 3 มก.
ราคา 455 บาท
2.ยาคุมฮอร์โมนต่ำ ยี่ห้อยาสมิน (Yasmin) หรือยาปรับฮอร์โมน ee30d
ยาคุมฮอร์โมนต่ำ ยี่ห้อยาสมิน (Yasmin) เป็นยาปรับฮอร์โมนที่มีความคล้ายคลึงกับ Yaz เพราะเป็นยาแบบฮอร์โมนต่ำ เป็นยาคุมกำเนิดชนิดรวมที่มีฮอร์โมนเพศหญิง เอทินิลเอสตราไดออล (Ethinyl Estradiol) และดรอสไพรโนน (Drospirenone) ส่วนใหญ่ยาสมินใช้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์โดยยับยั้งการตกไข่ เปลี่ยนแปลงมูกปากมดลูกด้วย
วัตถุประสงค์ในการใช้ ช่วยคุมกำเนิด ป้องกันการตั้งครรภ์โดยยับยั้งการตกไข่ เปลี่ยนแปลงมูกปากมดลูก
วิธีการกิน รับประทานยาต่อเนื่อง 21 วันจนหมดแผง จากนั้นไม่ต้องรับประทานยาอีก 7 วัน จึงค่อยเริ่มรับประทานยาแผงใหม่ เริ่มรับประทานยาแผงใหม่ตั้งแต่เม็ดแรกจนครบ 21 เม็ดและหยุดรับประทานยา 7 วันเหมือนเดิม แนะนำให้รับประทานยาหลังอาหารเย็นหรือก่อนนอน
ปริมาณยา 3 มก.
ราคา 395 บาท
3.ยาคุมฮอร์โมนต่ำ ยี่ห้อไดแอน-35 (Diane-35) หรือยาปรับฮอร์โมน ee35c
ยาคุมฮอร์โมนต่ำ ยี่ห้อไดแอน-35 (Diane-35) เป็นยาคุมกำเนิดยาคุมกำเนิดที่หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินชื่อนี้มาบ้างแล้ว นอกจากไดแอนจะช่วยคุมกำเนิดแล้วนั้น ยังช่วยลดฮอร์โมนเพศชาย ลดสิว ลดหน้ามัน ลดขนดกได้อีกด้วย ผลข้างเคียงคือ อาการบวมน้ำ อาจทำให้เป็นฝ้า และอาจกระตุ้นให้เกิดมะเร็งเต้านมได้หากมีก้อนเนื้อร้ายที่ไม่ทราบ
วัตถุประสงค์ในการใช้ ช่วยคุมกำเนิด ลดสิว ลดหน้ามัน ลดขนดก
วิธีการกิน เริ่มทานเม็ดแรกในวันแรกของรอบประจำเดือนครั้งถัดไป ทานวันละ 1 เม็ด เป็นเวลา 21 วัน แล้วเว้น 7 วัน ประจำเดือนจะมาในช่วงที่เว้นยา
ปริมาณยา 2 มก.
ราคา 235 บาท
4.ยาคุมฮอร์โมนต่ำ ยี่ห้อพรีม (PREME) และ บี-เลดี้ (B-Lady)
ยาคุมพรีม (PREME) และ บี-เลดี้ (B-Lady) เป็นยาคุมกำเนิดที่มีทั้งแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ด ก่อนเลือกใช้ยาคุมกำเนิดชนิดนี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสุขภาพเสียก่อนเนื่องจากการใช้ยาคุมกำเนิดแต่ละแบบอาจมีประสิทธิภาพในแต่ละบุคคลต่างกันไป ผลข้างเคียงคือ อาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ มวนท้อง คัดตึงเต้านม หากใช้เป็นเวลานานอาจมีอาการซึมเศร้า
วัตถุประสงค์ในการใช้ ช่วยคุมกำเนิด ลดสิว ลดความมันบนใบหน้า ปรับสมดุลฮอร์โมน
วิธีการกิน ควรรับประทานวันละ 1 เม็ด ในเวลาเดียวกันทุกวัน โดยเริ่มจากวันที่ 1 ของรอบประจำเดือน หรือภายใน 5 วันแรกของรอบประจำเดือน รับประทานต่อเนื่องจนหมดแผง (21 เม็ด) แล้วหยุด 7 วัน ก่อนเริ่มแผงใหม่
ปริมาณยา 2 มก.
ยาคุมพรีมราคา 130 บาท
5.ยาคุมฮอร์โมนต่ำ ยี่ห้อเมลลิแอน (Meliane)
ยาคุมฮอร์โมนต่ำ ยี่ห้อเมลลิแอน (Meliane) เป็นยาคุมแบบ 21 เม็ด มีตัวยาเจสโทดีน 0.075 มิลลิกรัม และยาเอธินิล เอสตราไดออล 0.02 มิลลิกรัม มีปริมาณยาฮอร์โมนที่ไม่มากเกินไป ข้อดีของยาคุมยี่ห้อนี้จะเกิดผลข้างเคียง เช่น อาการปวดหัว คลื่นไส้อาเจียน ได้น้อย เหมาะสำหรับคนที่ไม่เคยกินยาคุมมาก่อน หรือผู้ที่มีอาการ PMS ก่อนมีรอบเดือน รวมทั้งช่วยลดอาการบวมน้ำได้
วัตถุประสงค์ในการใช้ ช่วยคุมกำเนิด ปรับระดับฮอร์โมนในร่างกาย
วิธีการกิน เริ่มทานเม็ดแรกในวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งถัดไป ทานยาเม็ดต่อๆ ไปในเวลาเดียวกันทุกวัน จนหมดแผง เมื่อหมดแผงแล้ว ให้เว้น 7 วัน แล้วค่อยเริ่มแผงใหม่
ปริมาณยา 2 มก.
ราคา 140-170 บาท
6.ยาคุมฮอร์โมนต่ำ ยี่ห้อ JUSTIMA
ยาคุมฮอร์โมนต่ำ ยี่ห้อ JUSTIMA เป็นยาคุมที่มีระดับฮอร์โมนเอสโตเจนที่ 0.03 มิลลิกรัม ซึ่งไม่ทำให้บวมน้ำ มีส่วนประกอบของฮอร์โมน cyproterone acetate ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีฤทธิ์ยับยั้งแอนโดรเจน และใช้รักษาอาการจากฮอร์โมนเพศชายสูงได้ดีเช่นกัน โดยทั่วไปใช้ในการรักษาสิว ลดสิว และลดการงอกของขน
วัตถุประสงค์ในการใช้ ช่วยคุมกำเนิด ลดสิว ลดขนงอก
วิธีการกิน ทานยาคุมจัสติมา 1 เม็ดทุกวันในเวลาเดียวกัน ติดต่อกันเป็นเวลา 21 วัน จนหมดแผง · หลังจากกินหมดแผงแล้ว ให้เว้นระยะ 7 วันก่อนเริ่มแผงใหม่
ปริมาณยา 3 มก.
ราคา 235 บาท
7.ยาคุมฮอร์โมนต่ำ ยี่ห้อ Chariva
ยาคุมฮอร์โมนต่ำ ยี่ห้อ Chariva ยาคุมยี่ห้อนี้จะเหมาะกับผู้หญิงที่กังวลเรื่องน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น เป็นยาคุมที่มีผลข้างเคียงที่ทำให้บวมน้ำ ไม่ทำให้อ้วน ช่วยในการคุมกำเนิด ทั้งยังช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน สิวลดน้อยลง ลดการไหลของเลือดประจำเดือน ลดอาการก่อนมีประจำเดือนด้วย
วัตถุประสงค์ในการใช้ ช่วยคุมกำเนิด ลดสิว ลดความมันส่วนเกิน
วิธีการกิน การเริ่มรับประทานยาภายใน 5 วันแรกของรอบประจำเดือน หรือหากไม่สามารถทำได้ ให้เริ่มทานยาได้เลย แต่ต้องคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น (เช่น ถุงยางอนามัย) ร่วมด้วยเป็นเวลา 7 วัน รับประทานวันละ 1 เม็ดตามลูกศรในแผงยา
ปริมาณยา 3 มก.
ราคา 240-280 บาท
วิธีเลือกยาคุมให้เหมาะกับตัวเอง
- เลือกจากชนิดของฮอร์โมน ส่วนใหญ่ยาคุมกำเนิดฮอร์โมนต่ำที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จะเป็นยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม ยกเว้นในคนที่มีข้อจำกัดไม่ควรใช้ยาคุมกำเนิดฮอร์โมนรวม ได้แก่
- ผู้หญิงอายุมากกว่า 35 ปี ที่สูบบุหรี่เป็นประจำวันละ 15 มวนขึ้นไป
- ผู้หญิงที่มีโรคความดันโลหิตสูง มะเร็งเต้านม มะเร็งเยื่อบุมดลูก ไมเกรนชนิดมีออร่า หัวใจขาดเลือด ตับแข็ง มะเร็งตับ
- ผู้หญิงที่มีประวัติลิ่มเลือดอุดตัน สโตรก โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงมะเร็งเต้านมและมะเร็งเยื่อบุมดลูก
- ผู้หญิงให้นมบุตร
- เลือกใช้ยาคุมที่มี Ethinyl Estradiol ต่ำ ๆ ก่อน เช่น 0.02 มิลลิกรัม เพื่อลดอาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อ้วนบวมน้ำ หรือเป็นฝ้า และยังสามารถกินติดต่อกันได้นานอย่างปลอดภัย
- เลือกจากจำนวนเม็ดยา โดยยาเม็ดคุมกำเนิดมีทั้งชนิด 21 และ 28 เม็ด ลองเลือกให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการรับประทานยา ดังนี้
- ชนิด 21 เม็ดประกอบด้วยเม็ดฮอร์โมนทั้ง 21 เม็ด เหมาะสำหรับคนที่ไม่ความเสี่ยงที่จะลืมรับประทานยาหรือรับประทานยาผิด โดยให้รับประทานยา 21 วัน หยุดใช้ยา 7 วัน หลังจากนั้นให้ขึ้นแผงใหม่ (วันที่ 8 หลังจากหยุดใช้ยา) โดยไม่ต้องใส่ใจว่าประจำเดือนว่าจะมาหรือหยุดในวันไหน
- ชนิด 28 เม็ดที่ประกอบด้วยเม็ดฮอร์โมนและเม็ดแป้งหรือวิตามิน เหมาะสำหรับคนที่เสี่ยงจะลืมรับประทานยาคุมกำเนิด ให้รับประทานยาวันละ 1 เม็ดทุกวัน เมื่อหมดเม็ดสุดท้าย วันถัดมาให้เริ่มแผงใหม่ได้ทันที
บทที่ 4 วิธีบ่งใช้ยาคุมกำเนิดที่ถูกต้อง
- ควรทานยาคุมกำเนิดในเวลาเดิมทุกวัน หากลืมทานยาคุมกำเนิดให้ทำตามคำแนะนำที่มากับผลิตภัณฑ์
- ห้ามทานยาคุมกำเนิดหลังวันหมดอายุที่แจ้งไว้บนแผงยา
- ควรงดสูบบุหรี่ เนื่องจากยาคุมกำเนิดมีฮอร์โมนที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคลิ่มเลือดอุดตัน
- อาการท้องเสีย ถ่ายเหลว และอาเจียนจะมีผลทำให้การดูดซึมของยาน้อยลง จึงควรใช้วิธีการคุมกำเนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย
- สำหรับสตรีให้นมบุตร ควรใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว
ผลข้างเคียงของยาคุม
ผลข้างเคียงของการใช้ยาคุมอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน ซึ่งผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดคือคลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว เจ็บเต้านม อารมณ์แปรปรวน และมีเลือดออกผิดปกติ หากมีอาการผิดปกติรุนแรง เช่น เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก ควรปรึกษาแพทย์ทันที
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย
- คลื่นไส้ อาเจียน มักเกิดขึ้นในช่วงแรกของการใช้ยา และจะค่อยๆ หายไปเองเมื่อร่างกายปรับตัว
- ปวดหัว อาจมีอาการปวดหัวได้ แต่ไม่รุนแรง
- เจ็บเต้านม มักพบในช่วงแรกของการใช้ยา และจะหายไปเองในระยะต่อมา
- อารมณ์แปรปรวน บางคนอาจมีอาการอารมณ์แปรปรวน เช่น เครียด เศร้า
- มีเลือดออกผิดปกติ อาจมีเลือดออกระหว่างรอบประจำเดือน หรือมีประจำเดือนมาไม่ปกติ.
- น้ำหนักเพิ่ม ในบางคนอาจมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
- ช่องคลอดแห้ง อาจเกิดจากการลดระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน
- ปวดท้องน้อย สำหรับบางคนอาจมีอาการปวดท้องน้อย
ผลข้างเคียงที่รุนแรง
- ลิ่มเลือดอุดตัน มีโอกาสเกิดได้น้อยมาก แต่ควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการเจ็บหน้าอก หายใจลำบาก
- มะเร็งเต้านม อาจมีความเสี่ยงเล็กน้อย
- โรคหลอดเลือดสมอ มีโอกาสเกิดได้น้อยมาก
- ปัญหาทางระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย ท้องผูก
การใช้ยาคุมร่วมกับยาชนิดอื่น
การใช้ยาคุมร่วมกับยาชนิดอื่นอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาคุมได้ โดยเฉพาะยาบางชนิดที่อาจลดประสิทธิภาพของยาคุม จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยาชนิดอื่นร่วมกับยาคุม เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้ยาจะปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทางที่ดีที่สุดจึงควรควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานยาชนิดอื่นร่วมกับยาคุมกำเนิด ซึ่งยาที่ไม่ควรใช้ร่วมกับยาคุมกำเนิดมีดังนี้
- ยาแก้ชัก
- ยารักษาโรคเอดส์
- ยาปฏิชีวนะ เช่น Rifampicin ยากลุ่มเพนิซิลลิน และยากลุ่มเตตราไซคลีน
- อาหารเสริม อาหารเสริมบางชนิดอาจโต้ตอบกับยาคุม และทำให้เกิดผลข้างเคียง
- เกรปฟรุต อาจเพิ่มปริมาณฮอร์โมนในยาคุม ทำให้มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้
วิธีปฏิบัติตัวหากลืมรับประทานยาคุม
- ลืมทานยาหนึ่งเม็ดให้ทานทันทีที่นึกได้ และทานเม็ดต่อไปตามปกติ
- ลืมทาน 2 เม็ดติดต่อกันในช่วง 2 สัปดาห์แรกให้ทานยา 2 เม็ดติดต่อกัน 2 วัน แล้วทานต่อตามปกติจนหมดแผงให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย
- ลืมทานยา 2 เม็ดติดกันในช่วงสัปดาห์ที่ 3 หรือลืมมากกว่า 2 เม็ดในช่วงใดก็ตามให้หยุดยาแผงนั้นจนกว่าจะมีประจำเดือนจึงเริ่มแผงใหม่ ให้ใช้ถุงยางอนามัยหรืองดการร่วมเพศ
เห็นไหมคะสาว ๆ ว่ายาคุมกำเนิดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิด ยิ่งเรามีข้อมูลเพียงพอ และรู้จักว่ายาคุมฮอร์โมนต่ำ มียี่ห้ออะไรบ้างที่น่าใช้แล้วล่ะก็ บอกได้เลยว่าไม่ต้องกลัว เราอยากบอกสาว ๆ ว่ายาคุมกำเนิดในปัจจุบันนั้นมีหลายยี่ห้อมาก เราควรศึกษาให้ดีก่อนนำมาใช้ ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความมั่นใจในการเลือกใช้ยาจะดีกว่านะคะ
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/640
https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/644
https://www.amarinbabyandkids.com/review/birth-control-pill/
คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ
- เม็ดสีเมลานิน คืออะไร มีประโยชน์ยังไง และช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- 12 ลิปมันกันแดดบำรุงปากเนียนนุ่ม ลดปากคล้ำตัวเก่งที่วัตสัน
- 10 ยาสระผมแก้รังแคยี่ห้อไหนดี ลดปัญหาคันหนังศีรษะ พร้อมวิธีแก้คันหัว
- ทำความรู้จักกับชุดตรวจการตั้งครรภ์ ควร ใช้อย่างไรให้ได้ผลแม่นยำ
- 10 วิธี เวียนหัวกินอะไรหายเบื้องต้น ช่วยลดอาการปวดหัวไมเกรน
