กลิ่นปากเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญและอาจส่งผลต่อความมั่นใจในการพูดคุยหรือสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นในการทำงาน การนัดหมาย หรือการสังสรรค์ทั่วไป สเปรย์ดับกลิ่นปากจึงกลายเป็นตัวช่วยที่สำคัญสำหรับคนที่ต้องการความสดชื่นและความมั่นใจอย่างรวดเร็ว
วันนี้เราจะมาแนะนำ 10 ยี่ห้อสเปรย์ระงับกลิ่นปากที่น่าสนใจ พร้อมข้อมูลครบถ้วนเพื่อช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตัวเองได้ มีตัวไหนบ้างตามมาดูเลย.
กลิ่นปากเกิดจากอะไร?
กลิ่นปากสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้:
สาเหตุหลัก:
- แบคทีเรียในช่องปาก – แบคทีเรียที่สะสมบนลิ้น เหงือก และซอกฟันจะสร้างสารประกอบที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์
- อาหารที่รับประทาน – กระเทียม หอม กาแฟ และอาหารที่มีกลิ่นแรงจะทิ้งกลิ่นค้างในช่องปาก
- การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ – สารเหล่านี้จะสะสมในช่องปากและทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์
- ปากแห้ง – การขาดน้ำลายจะทำให้แบคทีเรียเพิ่มขึ้นและเกิดกลิ่นปาก
- ปัญหาทางทันตกรรม – โรคเหงือก ฟันผุ หรือหินปูน
- ปัญหาสุขภาพ – โรคกรดไหลย้อน โรคเบาหวาน หรือโรคในระบบทางเดินหายใจ
สเปรย์ดับกลิ่นปากคืออะไร?
สเปรย์ดับกลิ่นปากเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่มาในรูปแบบสเปรย์ฉีดพ่น ออกแบบมาเพื่อกำจัดกลิ่นปากอย่างรวดเร็วและให้ความสดชื่นกับช่องปาก
คุณสมบัติหลัก:
- ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย – ช่วยกำจัดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปาก
- ให้ความสดชื่น – สร้างความรู้สึกสะอาดและหอมสดชื่น
- ใช้งานสะดวก – พกพาง่าย ใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา
- ทำงานเร็ว – ให้ผลทันทีภายในไม่กี่วินาที
สเปรย์ดับกลิ่นปากช่วยลดกลิ่นปากได้จริงไหม?
คำตอบคือ ใช่ สเปรย์ดับกลิ่นปากสามารถช่วยลดกลิ่นปากได้จริง แต่มีข้อจำกัดดังนี้:
ข้อดี:
- ช่วยกำจัดกลิ่นปากได้อย่างรวดเร็ว
- ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปาก
- สะดวกใช้และพกพา
- ให้ความสดชื่นทันที
ข้อจำกัด:
- ผลชั่วคราว – มักจะคงอยู่เพียง 1-3 ชั่วโมง
- ไม่รักษาสาเหตุรากฐาน – หากกลิ่นปากเกิดจากปัญหาสุขภาพ จำเป็นต้องรักษาต้นเหตุ
- ไม่ทดแทนการแปรงฟัน – ยังคงต้องดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกต้อง
10 สเปรย์ระงับกลิ่นปาก ยี่ห้อไหนดี? เพิ่มความมั่นใจ ปากหอม สดชื่น
1. Nodogle Mouth Spray – สเปรย์ดับกลิ่นปากสูตรญี่ปุ่น

จุดเด่น:
- เทคโนโลยีจากญี่ปุ่น ที่ช่วยกำจัดแบคทีเรียสาเหตุกลิ่นปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ให้ความสดชื่นยาวนาน ถึง 4-6 ชั่วโมง
- ไม่มีแอลกอฮอล์ เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายและเด็ก
- ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก เหมาะสำหรับคนที่เดินทางบ่อย
- กลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่แรงเกินไป เหมาะกับการใช้ในที่ทำงาน
ส่วนผสมสำคัญ:
- Cetylpyridinium Chloride – สารฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
- Xylitol – ป้องกันการเกิดฟันผุและกระตุ้นการหลั่งน้ำลาย
- Menthol – ให้ความเย็นสดชื่นและลดกลิ่นปาก
- Green Tea Extract – สารต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ
ปริมาณ:
20ml (ใช้ได้ประมาณ 200 ครั้ง)
2. Veldent Mouth Spray – สเปรย์ปากสะอาดสูตรทันตแพทย์

จุดเด่น:
- พัฒนาโดยทันตแพทย์ เฉพาะสำหรับปัญหาช่องปาก
- ป้องกันโรคเหงือก และลดการสะสมของคราบหินปูน
- ลดความรู้สึกเสียวฟัน สำหรับผู้ที่มีฟันแสง
- สูตรไม่มีน้ำตาล ปลอดภัยต่อฟันและเหงือก
- ได้รับรองมาตรฐาน FDA ความปลอดภัยสูง
ส่วนผสมสำคัญ:
- Sodium Fluoride – ป้องกันฟันผุและเสริมความแข็งแรงของฟัน
- Chlorhexidine Gluconate – ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้หลากหลายชนิด
- Eucalyptus Oil – ต้านการอักเสบและให้ความสดชื่น
- Potassium Nitrate – ลดความรู้สึกเสียวฟัน
ปริมาณ:
25ml (ใช้ได้ประมาณ 250 ครั้ง)
3. Dentiste Hygenic Breath Spray – สเปรย์ลมหายใจสดชื่นตลอดวัน

จุดเด่น:
- สูตรเฉพาะจากสมุนไพรธรรมชาติ ปลอดภัยและอ่อนโยน
- ให้ความสดชื่นตลอดวัน ด้วยสูตรที่เข้มข้น
- ช่วยขจัดคราบเหลืองบนฟัน และทำให้ฟันดูขาวขึ้น
- กลิ่นหอมหวานจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีที่แรง
- เหมาะสำหรับผู้สูบบุหรี่ ช่วยลดกลิ่นยาสูบได้ดี
ส่วนผสมสำคัญ:
- Bamboo Salt – ลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
- 13 Natural Herbs – สมุนไพรธรรมชาติที่ช่วยดูแลช่องปาก
- Vitamin C – เสริมสร้างเหงือกให้แข็งแรง
- Essential Oils Blend – ให้ความหอมสดชื่นจากธรรมชาติ
ปริมาณ:
15ml (ใช้ได้ประมาณ 150 ครั้ง)
4. Watsons Icy Cool Mint Mouth Spray – สเปรย์เมนทอลเย็นฉ่ำ

จุดเด่น:
- ความเย็นสุดฉ่ำ จากเมนทอลเข้มข้น เหมาะสำหรับสภาพอากาศร้อน
- ราคาประหยัด คุ้มค่าสำหรับการใช้ประจำวัน
- หาซื้อง่าย มีจำหน่ายใน Watsons ทุกสาขา
- ขนาดพกพา เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา
- ใช้ได้ทั้งครอบครัว สูตรอ่อนโยนปลอดภัย
ส่วนผสมสำคัญ:
- Strong Menthol – เมนทอลเข้มข้นให้ความเย็นฉ่ำ
- Peppermint Oil – ช่วยระงับกลิ่นปากและให้ความสดชื่น
- Glycerin – เพิ่มความชุ่มชื้นให้ช่องปาก
- Purified Water – น้ำบริสุทธิ์ที่ปลอดภัย
ปริมาณ:
18ml (ใช้ได้ประมาณ 180 ครั้ง)
5. Listerine Mouthspray Pocketmist Cool Mint – สเปรย์จากแบรนด์ดัง

จุดเด่น:
- แบรนด์ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี
- ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย 99.9% ด้วยสูตรที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว
- ความสดชื่นยาวนาน ถึง 3-4 ชั่วโมง
- สูตรเข้มข้น ใช้เพียงเล็กน้อยก็ได้ผลดี
- บรรจุภัณฑ์คุณภาพสูง ไม่รั่วซึมและใช้งานสะดวก
ส่วนผสมสำคัญ:
- Eucalyptol – น้ำมันหอมระเหยจากใบยูคาลิปตัส
- Menthol – ให้ความเย็นสดชื่นและลดกลิ่นปาก
- Methyl Salicylate – ลดการอักเสบในช่องปาก
- Thymol – สารต้านแบคทีเรียและเชื้อรา
ปริมาณ:
7.7ml (ใช้ได้ประมาณ 75 ครั้ง)
6. Jup Jup Probiotic Oral Spray – สเปรย์โปรไบโอติกส์เพื่อสุขภาพช่องปาก

จุดเด่น:
- นวัตกรรมโปรไบโอติกส์ ช่วยสร้างสมดุลแบคทีเรียดีในช่องปาก
- ลดกลิ่นปากจากต้นเหตุ ไม่ใช่เพียงแค่ปิดบัง ยังได้ความหอมสดชื่น
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาปากแห้ง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
- ไม่มีแอลกอฮอล์และสารเคมีที่แรง ปลอดภัยสำหรับการใช้ระยะยาว
- ช่วยป้องกันโรคเหงือก และการสะสมของคราบจุลินทรีย์
ส่วนผสมสำคัญ:
- Lactobacillus Salivarius – โปรไบโอติกส์ที่ดีต่อช่องปาก
- Xylitol – ป้องกันฟันผุและเลี้ยงแบคทีเรียดี
- Cranberry Extract – ต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ
- Zinc Gluconate – ลดกลิ่นปากและมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อ
ปริมาณ:
30ml (ใช้ได้ประมาณ 300 ครั้ง)
7. Snake Brand Herbal Andrographis Mouth Spray – สเปรย์สมุนไพรไทย

จุดเด่น:
- สมุนไพรไทยแท้ จากฟ้าทะลายโจรที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเจ็บคอ หรือแผลในปาก
- ช่วยลดการอักเสบในช่องปาก และคอหอย
- ไม่มีสารเคมีสังเคราะห์ ปลอดภัยและธรรมชาติ
- ราคาประหยัด เหมาะกับคนไทยทุกคน
ส่วนผสมสำคัญ:
- Andrographis Paniculata Extract – สารสกัดฟ้าทะลายโจร
- Licorice Root Extract – สารสกัดรากชะเอมเทศ
- Menthol Crystal – เมนทอลธรรมชาติ
- Honey Extract – สารสกัดน้ำผึ้งที่ช่วยบรรเทาการอักเสบ
ปริมาณ:
22ml (ใช้ได้ประมาณ 220 ครั้ง)
8. Dr.PONG Bee Propolis Supermint Mouth Spray – สเปรย์โพรโพลิสจากผึ้ง

จุดเด่น:
- โพรโพลิสจากผึ้งแท้ มีคุณสมบัติต้านแบคทีเรียและเชื้อราตามธรรมชาติ
- ช่วยรักษาแผลในปาก และเร่งการสมานแผล
- เสริมภูมิคุ้มกันในช่องปาก ลดการติดเชื้อ
- กลิ่นมิ้นท์เข้มข้น ให้ความสดชื่นยาวนาน
- ผลิตจากสมุนไพรธรรมชาติ ปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียง
ส่วนผสมสำคัญ:
- Bee Propolis Extract – สารสกัดโพรโพลิสจากผึ้ง
- Supermint Oil – น้ำมันมิ้นท์เข้มข้น
- Vitamin E – วิตามินอีที่ช่วยบำรุงเยื่อบุช่องปาก
- Glycerin – ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
ปริมาณ:
20ml (ใช้ได้ประมาณ 200 ครั้ง)
9. MyBacin Mangosteen Extract – สเปรย์สารสกัดมังคุด

จุดเด่น:
- สารสกัดมังคุดธรรมชาติ อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยลดการอักเสบในเหงือก และป้องกันโรคเหงือก
- กลิ่นหอมหวานจากธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องใช้สารปรุงแต่งกลิ่น
- เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นมิ้นท์ มีทางเลือกกลิ่นอื่น
- ผลิตในประเทศไทย สนับสนุนเกษตรกรไทย
ส่วนผสมสำคัญ:
- Mangosteen Pericarp Extract – สารสกัดจากเปลือกมังคุด
- Xanthones – สารต้านอนุมูลอิสระที่พบในมังคุด
- Natural Flavoring – สารปรุงแต่งกลิ่นรสธรรมชาติ
- Stevia Extract – สารให้ความหวานจากธรรมชาติ
ปริมาณ:
25ml (ใช้ได้ประมาณ 250 ครั้ง)
10. Amway Glister Mint Refresher Spray – สเปรย์ระดับพรีเมียม

จุดเด่น:
- คุณภาพระดับพรีเมียม จากแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับระดับสากล
- สูตรเข้มข้นพิเศษ ให้ผลยาวนานกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไป
- ไม่มีน้ำตาลและแอลกอฮอล์ ปลอดภัยสำหรับผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพ
- บรรจุภัณฑ์หรูหรา เหมาะสำหรับเป็นของขวัญ
- การันตีความพอใจ ด้วยนโยบายคืนเงิน
ส่วนผสมสำคัญ:
- Premium Mint Extract – สารสกัดมิ้นท์คุณภาพสูง
- Calcium Carbonate – ช่วยทำความสะอาดและขัดฟัน
- Hydrated Silica – ช่วยขจัดคราบและทำให้ฟันขาว
- Sodium Monofluorophosphate – ป้องกันฟันผุอย่างมีประสิทธิภาพ
ปริมาณ:
14ml (ใช้ได้ประมาณ 140 ครั้ง)
สรุปและคำแนะนำการเลือกใช้
เลือกตามความต้องการ:
สำหรับการใช้ประจำวัน:
- Watsons Icy Cool Mint (ราคาประหยัด)
- Nodogle Mouth Spray (คุณภาพดี ราคาสมเหตุสมผล)
สำหรับปัญหาเฉพาะ:
- Jup Jup Probiotic (ปากแห้ง, ปัญหาแบคทีเรียไม่สมดุล)
- Snake Brand Herbal (เจ็บคอ, แผลในปาก)
- Dr.PONG Bee Propolis (แผลในปาก, ต้องการสมุนไพร)
สำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพสูง:
- Listerine Pocketmist (แบรนด์ดัง, มีประสิทธิภาพ)
- Amway Glister (ระดับพรีเมียม)
สำหรับผู้ที่ชอบธรรมชาติ:
- MyBacin Mangosteen (มังคุด)
- Dentiste Hygenic (สมุนไพร 13 ชนิด)
เคล็ดลับการใช้งาน:
- ใช้หลังแปรงฟัน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
- เก็บในอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงแดดโดดตรง
- ไม่ควรใช้เกิน 8-10 ครั้งต่อวัน เพื่อป้องกันการระคายเคือง
- อ่านส่วนผสม หากมีประวัติแพ้สารใดๆ
การเลือกสเปรย์ระงับกลิ่นปากที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความมั่นใจและสร้างความประทับใจดีในการสื่อสารกับผู้อื่น เลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของคุณ แล้วคุณจะได้สัมผัสกับลมหายใจที่สดชื่นตลอดวัน!

ควรเลือกสเปรย์ระงับกลิ่นปากอย่างไร?
เลือกส่วนผสมที่เหมาะสม
สำหรับกลิ่นปากทั่วไป:
- Cetylpyridinium Chloride – ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
- Menthol – ให้ความสดชื่น
- Essential Oils – ให้ความหอมธรรมชาติ
สำหรับปากแห้ง:
- Xylitol – กระตุ้นการหลั่งน้ำลาย
- Glycerin – เพิ่มความชุ่มชื้น
- Hyaluronic Acid – ล็อคความชื้น
หากมีอาการเจ็บคอร่วมด้วย
แนะนำให้เลือกสเปรย์ดับกลิ่นปากที่มีส่วนผสมช่วยลดการอักเสบ:
- Benzydamine HCl – ช่วยลดอาการอักเสบและปวด
- Hexetidine – ฆ่าเชื้อและลดการอักเสบ
- Natural Anti-inflammatory – สารสกัดจากสมุนไพรที่ช่วยลดการอักเสบ
เลือกสเปรย์ดับกลิ่นปากสูตรปราศจากน้ำตาลและใช้สารให้ความหวานแทน
เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยงน้ำตาล:
- น้ำตาลเป็นอาหารของแบคทีเรียในช่องปาก
- อาจทำให้กลิ่นปากรุนแรงขึ้นในระยะยาว
- เสี่ยงต่อการเกิดฟันผุ
สารให้ความหวานแทนที่แนะนำ:
- Xylitol – ป้องกันแบคทีเรียและกระตุ้นการหลั่งน้ำลาย
- Stevia – ธรรมชาติและปลอดภัย
- Sorbitol – ไม่เป็นอันตรายต่อฟัน
สเปรย์ดับกลิ่นปากเหมาะกับใครบ้าง?
กลุ่มที่ควรใช้:
- คนทำงานที่ต้องพบปะผู้คน – พนักงานขาย นักการตลาด
- ผู้ที่มีปัญหากลิ่นปากเรื้อรัง – จากสาเหตุทางการแพทย์
- คนที่สูบบุหรี่หรือดื่มกาแฟบ่อย – ช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์
- ผู้ที่อยู่ในสภาวะปากแห้ง – จากยา การนอนหายใจทางปาก
- คนที่ต้องการความสะดวกสบาย – ไม่สะดวกแปรงฟันบ่อย
กลุ่มที่ควรระวัง:
- เด็กเล็ก – ควรเลือกสูตรที่เหมาะสมและใช้ภายใต้การดูแล
- ผู้ที่แพ้ส่วนผสม – ควรอ่านป้ายส่วนผสมให้ละเอียด
- หญิงตั้งครรภ์ – ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพช่องปากรุนแรง – ควรรักษาต้นเหตุก่อน
สเปรย์ดับกลิ่นปากเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการจัดการกับปัญหากลิ่นปากอย่างรวดเร็วและสะดวก โดยการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพของตัวเองจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
สิ่งสำคัญคือควรจำไว้ว่าสเปรย์ดับกลิ่นปากเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกต้องด้วยการแปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน และตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำยังคงเป็นสิ่งจำเป็น หากมีปัญหากลิ่นปากเรื้อรัง ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม
คำถามที่พบบ่อย
ใช้อย่างไรให้ได้ผลดีที่สุด?
วิธีใช้ที่ถูกต้อง:
- เขย่าขวดก่อนใช้ – เพื่อให้ส่วนผสมกระจายตัวเท่ากัน
- ฉีดพ่น 2-3 ครั้ง – ในช่องปากและลิ้น
- รอ 10-15 วินาที – ก่อนกลืนและบ้วนออก
- หลีกเลี่ยงการกิน-ดื่ม – เป็นเวลา 15-30 นาทีหลังใช้
เคล็ดลับเพิ่มเติม:
- ใช้หลังแปรงฟันเพื่อผลดีสุด
- เก็บในอุณหภูมิห้อง
- ทำความสะอาดหัวสเปรย์บ้างเป็นครั้งคราว
สเปรย์ดับกลิ่นปากช่วยรักษากลิ่นปากถาวรได้หรือไม่?
คำตอบสั้น: ไม่ได้ สเปรย์ดับกลิ่นปากให้ผลเฉพาะหน้าเท่านั้น การรักษากลิ่นปากถาวรต้องอาศัยสิ่งเหล่านี้ :
- การดูแลสุขภาพช่องปากที่ถูกต้อง
- การรักษาปัญหาสุขภาพที่เป็นต้นเหตุ
- การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่เสี่ยง
- การตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ
ใช้บ่อยเกินไปมีผลข้างเคียงไหม?
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น:
- ปากแห้ง – จากการใช้แอลกอฮอล์มากเกินไป
- การระคายเคือง – ในผู้ที่มีความแพง
- ความไม่สมดุลของแบคทีเรียดี – การฆ่าเชื้อมากเกินไป
- การเกิดดื้อยา – หากใช้ยาฆ่าเชื้อบ่อยเกินไป
คำแนะนำ: ไม่ควรใช้เกิน 6-8 ครั้งต่อวัน
สเปรย์ดับกลิ่นปากต่างจากเมาท์วอชอย่างไร?
ความแตกต่างหลัก:
สเปรย์ดับกลิ่นปากเมาท์วอชใช้งานรวดเร็ว พกพาสะดวกใช้เวลานานกว่า เก็บรักษายากปริมาณน้อย เข้มข้นปริมาณมาก เจือจางมุ่งเน้นกำจัดกลิ่นปากดูแลสุขภาพช่องปากรอบด้านราคาแพงต่อมิลลิลิตรราคาถูกต่อมิลลิลิตร
เด็กใช้สเปรย์ดับกลิ่นปากได้ไหม?
คำแนะนำตามช่วงอายุ: เด็กอายุ 6-12 ปี
- ใช้ได้ภายใต้การดูแลผู้ใหญ่
- เลือกสูตรที่อ่อนโยนและไม่มีแอลกอฮอล์
- หลีกเลี่ยงการใช้บ่อยเกินไป
เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป:
- ใช้ได้เหมือนผู้ใหญ่
- ควรให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ที่ถูกต้อง
เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี:
- ไม่แนะนำให้ใช้
- ควรใช้วิธีการดูแลช่องปากที่เหมาะสมกับวัยแทน
จบแล้วเป็นอย่างไรบ้างคะ สเปรย์ดับกลิ่นปากเป็นนวัตกรรมที่มีประโยชน์และจำเป็นในชีวิตประจำวันของคนยุคใหม่ ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการดูแลความสดชื่นของช่องปาก การเลือกผลิตภัณฑ์ ควรพิจารณาจากความต้องการส่วนบุคคล หากมีปัญหาปากแห้งก็เลือกสูตรเฉพาะ หากมีอาการเจ็บคอควรเลือกที่มีส่วนผสมต้านอักเสบ และที่สำคัญคือเลือกสูตรปราศจากน้ำตาลเพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีในระยะยาวค่ะ
คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ