โหลดแอปฯ
ดาวน์โหลด:
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอปวัตสัน
  • google-play.png
  • app-store.png
  • app-gallery.png
ค้นหาร้านค้า บทความน่าอ่าน
Watsons Services
0
ตะกร้า
Share

ขอบตาดำคล้ำเป็นปัญหาที่หลายคนกังวล ไม่ว่าจะเกิดจากการนอนไม่เพียงพอ ความเครียด หรือพันธุกรรม ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและไม่สดใส แต่ไม่ต้องกังวล เพราะมีวิธีแก้ไขที่ง่ายและได้ผลจริง

ในบทความนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับ 10 วิธีแก้ขอบตาดำคล้ำที่เห็นผลเร็ว ตั้งแต่วิธีธรรมชาติที่ทำได้ที่บ้าน จนถึงการดูแลแบบเฉพาะทาง ทุกวิธีล้วนใช้งานง่าย ประหยัด และปลอดภัย หากคุณทำตามอย่างสม่ำเสมอ รับรองว่าขอบตาคล้ำจะจางลงอย่างเห็นได้ชัด ให้คุณมีดวงตาที่สดใสและมีชีวิตชีวาขึ้น มาเริ่มดูแลดวงตาของคุณให้สวยงามกันเลย

ขอบตาดำมาก สาเหตุเกิดจากอะไร

1. กรรมพันธุ์

พันธุกรรมเป็นสาเหตุหลักของขอบตาดำที่หลายคนมักมองข้าม หากพ่อแม่หรือญาติในครอบครัวมีขอบตาคล้ำ โอกาสที่คุณจะมีปัญหานี้ก็สูงตามไปด้วย เพราะโครงสร้างของหนังตารอบดวงตา ความหนาของผิวหนัง และการจัดเรียงตัวของเส้นเลือดใต้ผิวหนังได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ผู้ที่มีผิวบาง เส้นเลือดใกล้ผิวหนัง หรือมีเม็ดสีมากเกินไปจะมีขอบตาคล้ำได้ง่าย การแก้ไขปัญหาจากพันธุกรรมต้องใช้วิธีการที่เฉพาะเจาะจงและต่อเนื่อง

2. ภูมิแพ้และการไหลเวียนของเลือดไม่ดี

โรคภูมิแพ้ทำให้เกิดการอักเสบรอบดวงตาอย่างต่อเนื่อง เมื่อร่างกายตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ เส้นเลือดรอบดวงตาจะขยายตัวและเกิดการบวม สร้างเงาดำใต้ตา อาการคันตาจากภูมิแพ้ยังทำให้เราขยี้ตาบ่อยขึ้น ซึ่งยิ่งทำให้ปัญหาแย่ลง นอกจากนี้การไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองที่ไม่ดีทำให้ของเสียสะสมอยู่ใต้ตา เส้นเลือดแดงและเส้นเลือดดำที่ไหลเวียนช้าลงจะทำให้เลือดคั่งค้างและสร้างสีคล้ำได้ การออกกำลังกายและนวดเบา ๆ จะช่วยปรับปรุงการไหลเวียนได้

3. ขยี้ตาบ่อยๆ

การขยี้ตาเป็นนิสัยที่ดูไม่เป็นไร แต่กลับสร้างความเสียหายมากมาย ผิวหนังรอบดวงตาบอบบางและละเอียดอ่อนที่สุดในร่างกาย การถูขยี้ด้วยแรงจะทำลายเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนัง ทำให้เลือดรั่วซึมออกมาและก่อให้เกิดจุดเลือดออกเล็ก ๆ ที่มองเห็นเป็นสีคล้ำ การขยี้ตาซ้ำ ๆ ยังกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวหนังมีสีเข้มขึ้นอย่างถาวร นอกจากนี้ยังทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยก่อนวัย และทำให้ขอบตาดำชัดเจนยิ่งขึ้น การควบคุมตัวเองไม่ให้ขยี้ตาจึงสำคัญมาก

4. อายุที่มากขึ้น

เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผิวหนังจะเริ่มเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ คอลลาเจนและอีลาสตินที่ช่วยให้ผิวหนังแน่นและยืดหยุ่นจะลดลง ทำให้ผิวหนังรอบดวงตาบางลงและหย่อนคล้อย เส้นเลือดและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังจึงมองเห็นได้ชัดขึ้น ไขมันใต้ตาที่ช่วยพยุงผิวหนังก็จะลดลง ทำให้เกิดหลุมลึกและเงาใต้ตา กระบวนการเมแทบอลิซึมของเซลล์ผิวหนังช้าลง การซ่อมแซมตัวเองจึงไม่มีประสิทธิภาพเท่าเดิม การดูแลผิวหนังด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนจึงมีความสำคัญ

5. พักผ่อนไม่เพียงพอ

การนอนหลับไม่เพียงพอเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของขอบตาดำ ขณะหลับลึก ร่างกายจะซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังและกำจัดสารพิษ หากนอนไม่พอหรือนอนดึก กระบวนการนี้จะไม่สมบูรณ์ เส้นเลือดใต้ตาจะขยายตัวเพื่อขนส่งออกซิเจนให้เพียงพอ ทำให้มองเห็นเป็นสีคล้ำ การนอนไม่หลับยังกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ทำลายคอลลาเจน ผิวหนังจึงบางลงและทำให้ขอบตาคล้ำเด่นชัด นอกจากนี้ความเหนื่อยล้ายังทำให้ผิวหนังซีดลง ทำให้ขอบตาดำเห็นชัดเจนขึ้นเป็นการตัดกัน

ขอบตาดำมาก สาเหตุเกิดจากพักผ่อนน้อย

6. ขาดน้ำ

น้ำมีบทบาทสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิวหนัง เมื่อร่างกายขาดน้ำ ผิวหนังจะแห้ง หดตัว และเหี่ยวย่น ทำให้ขอบตาดำและริ้วรอยเห็นชัดเจนขึ้น การขาดน้ำยังส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดข้นขึ้นและไหลเวียนช้าลง เส้นเลือดใต้ตาจึงดูเข้มขึ้น น้ำเหลืองที่ช่วยขจัดของเสียจากเซลล์ก็ไหลเวียนไม่ดี ทำให้สารพิษสะสมและก่อให้เกิดการอักเสบ การดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวันจะช่วยปรับปรุงสภาพผิวหนังและลดขอบตาดำได้อย่างเห็นได้ชัด

7. แสงแดด

รังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดดเป็นศัตรูของผิวหนัง โดยเฉพาะผิวหนังบอบบางรอบดวงตา รังสี UVA และ UVB ทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวหนังเสื่อมสภาพก่อนวัย แสงแดดยังกระตุ้นการผลิตเมลานินเพื่อปกป้องผิวหนัง ทำให้เกิดจุดด่างดำและผิวหนังมีสีเข้มขึ้น บริเวณรอบดวงตาที่ได้รับแสงแดดโดยตรงจะมีสีคล้ำกว่าส่วนอื่น การเหยเราตาในแสงแดดจัดยังทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาหดเกร็ง สร้างริ้วรอยและทำให้ขอบตาดำเด่นชัด การใส่แว่นกันแดดทุกครั้งที่ออกแดดจึงเป็นสิ่งจำเป็น

8. การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์

 นิโคตินในบุหรี่ทำให้เส้นเลือดหดตัว ลดการไหลเวียนของเลือดไปยังผิวหนัง ผิวหนังจึงไม่ได้รับออกซิเจนและสารอาหารเพียงพอ ทำให้มีสีหม่น เป็นขอบตาดำ สารเคมีในบุหรี่ยังทำลายคอลลาเจนและวิตามินซี ทำให้ผิวหนังแก่ก่อนวัย แอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ขยายเส้นเลือด และลดคุณภาพการนอนหลับ การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำยังขัดขวางการดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อสุขภาพผิวหนัง ตับที่ทำงานหนักในการกำจัดสารพิษจากแอลกอฮอล์ไม่สามารถทำหน้าที่ดีท็อกซ์อื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

9. ความเครียด

ความเครียดเป็นตัวการร้ายที่ส่งผลต่อร่างกายอย่างรุนแรง เมื่อเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ทำลายคอลลาเจนและทำให้ผิวหนังบาง การนอนไม่หลับจากความเครียดยังทำให้ขอบตาดำชัดเจนขึ้น ความเครียดยังกระตุ้นการผลิตเม็ดสีมากเกินไป ทำให้ผิวหนังมีสีเข้ม การขาดอนุมูลอิสระจากความเครียดออกซิเดชันก็ทำลายเซลล์ผิวหนัง นิสัยการขยี้หน้าและหนังคิ้วขมวดจากความเครียดยังสร้างริ้วรอยและทำให้ขอบตาดำดูแย่ลง การจัดการความเครียดด้วยการออกกำลังกาย สมาธิ หรือทำกิจกรรมที่ชื่นชอบจึงมีความสำคัญ

10. การตั้งครรภ์

ระหว่างตั้งครรภ์ ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น ฮอร์โมนเหล่านี้กระตุ้นการผลิตเมลานิน ทำให้ผิวหนังมีสีเข้มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณที่มีผิวหนังบางและมีเส้นเลือดใกล้ผิวหนัง การขาดหลับจากอาการคลื่นไส้ หรือความไม่สบายตัวในระหว่างตั้งครรภ์ก็ทำให้ขอบตาดำชัดขึ้น การขาดเหล็กที่พบบ่อยในหญิงตั้งครรภ์ยังทำให้เลือดขาดออกซิเจน มีสีคล้ำขึ้น การดูแลสุขภาพอย่างรอบด้านและการพักผ่อนให้เพียงพอจึงสำคัญ โดยส่วนใหญ่ขอบตาดำจะดีขึ้นเองหลังคลอดเมื่อฮอร์โมนกลับสู่ปกติ

11. ไม่ทาครีมกันแดด

การไม่ป้องกันผิวหนังจากแสงแดดเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรง รังสี UV ทำลายเซลล์ผิวหนังและเร่งการเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาที่มีผิวหนังบางที่สุด การไม่ทาครีมกันแดดทำให้เมลานินถูกกระตุ้นมากเกินไป เกิดจุดด่างดำและผิวหนังคล้ำ แสงแดดยังทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย เส้นเลือดใต้ผิวหนังมองเห็นได้ชัดขึ้น การเหยเราตาในแสงแดดจัดยังสร้างริ้วรอยและทำให้ขอบตาดำเห็นชัดเจน ครีมกันแดดที่มี SPF อย่างน้อย 30 และป้องกัน UVA และ UVB ควรทาทุกวันแม้อยู่ในอาคาร

ขอบตาดำมาก สาเหตุเกิดจากไม่ทาครีมกันแดด

อาการของขอบตาดำ

ขอบตาดำมีอาการที่หลากหลายและแตกต่างกันไปตามสาเหตุ การรู้จักอาการเหล่านี้จะช่วยให้สามารถวินิจฉัยและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมได้

อาการที่มองเห็นได้

สีคล้ำใต้ตาเป็นอาการหลักที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด อาจเป็นสีน้ำตาล สีดำ สีน้ำเงิน สีม่วง หรือสีเทา ขึ้นอยู่กับสาเหตุและสีผิว ผู้ที่มีผิวขาวมักจะเห็นเป็นสีน้ำเงินหรือม่วง ในขณะที่ผู้มีผิวคล้ำจะเห็นเป็นสีน้ำตาลหรือดำ บริเวณใต้ตาอาจบวมหรือเป็นถุงตา ทำให้ดูหนักและเหนื่อยล้า ผิวหนังอาจดูหย่อนคล้อย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ หรือดูบาง จนมองเห็นเส้นเลือดใต้ผิวหนังได้

อาการที่รู้สึกได้

บางคนอาจรู้สึกคันหรือระคายเคืองรอบดวงตา โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดจากภูมิแพ้ อาจมีอาการแสบตาหรือตาแห้งร่วมด้วย

ผิวหนังรอบดวงตาอาจรู้สึกตึงตัวหรือแห้ง ขาดความชุ่มชื้น บางครั้งอาจมีอาการปวดศีรษะเล็กน้อยจากการเพ่งมองหรือการเหยเราตาบ่อย ๆ

อาการที่เปลี่ยนแปลงตามเวลา

ขอบตาดำอาจเป็นมากขึ้นในช่วงเช้าหลังตื่นนอน เนื่องจากน้ำเหลืองคั่งค้างจากการนอน หรือแย่ลงเมื่อเหนื่อยล้า นอนไม่พอ หรือเครียด

บางคนพบว่าขอบตาดำเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล เช้มขึ้นในฤดูหนาวเมื่ออากาศแห้ง หรือแย่ลงในฤดูร้อนจากแสงแดดจัด

อาการร่วม

อาจมีริ้วรอยหรือเส้นใต้ตา (Fine lines) ร่วมด้วย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ผิวหนังอาจดูไม่เรียบเนียน มีเนื้อสัมผัสที่หยาบ หรือมีจุดด่างเล็ก ๆ

ในบางกรณีอาจมีอาการแพ้แสง ตาแฉะ หรือมีขี้ตาเพิ่มขึ้น หากเกิดจากโรคภูมิแพ้

ความรุนแรงของอาการ

ขอบตาดำแบ่งได้เป็น 3 ระดับ คือ เบา (เห็นเมื่อมองใกล้) ปานกลาง (เห็นชัดในระยะปกติ) และรุนแรง (เห็นชัดมากแม้ในระยะไกล)

การสังเกตอาการเหล่านี้จะช่วยให้เข้าใจสาเหตุและเลือกวิธีการดูแลรักษาที่เหมาะสมได้อย่างถูกต้อง

อาการขอบตาดำ

15 วิธีแก้ขอบตาดำคล้ำ

1. หาสาเหตุของปัญหาขอบตาดำ

การแก้ไขขอบตาดำอย่างมีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากการค้นหาสาเหตุที่แท้จริง ต้องสังเกตว่าขอบตาดำเกิดขึ้นเมื่อไหร่ มีอาการร่วมอะไรบ้าง และปัจจัยใดที่ทำให้รุนแรงขึ้น หากเป็นมาตั้งแต่เด็กอาจเป็นเรื่องพันธุกรรม หากเกิดขึ้นเฉียบพลันอาจเป็นจากการขาดหลับหรือภูมิแพ้ การตรวจสอบสุขภาพทั่วไป ระดับเหล็กในเลือด ฮอร์โมน และการทำงานของไต ตับ จะช่วยระบุสาเหตุภายใน ส่วนสาเหตุภายนอกเช่น การใช้เครื่องสำอาง การสัมผัสแสงแดด หรือการขยี้ตาบ่อย ๆ ก็ต้องพิจารณาด้วย การทำไดอารี่บันทึกอาการจะช่วยให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมต่าง ๆ กับความรุนแรงของขอบตาดำ

2. หมั่นดูแลตัวเอง

การดูแลสุขภาพโดยรวมส่งผลโดยตรงต่อสภาพผิวหนังรอบดวงตา การรับประทานอาหารที่มีวิตามินซี อี และเบต้าแคโรทีน จะช่วยสร้างคอลลาเจนและต้านอนุมูลอิสระ การดื่มน้ำให้เพียงพอ 8-10 แก้วต่อวันช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว การออกกำลังกายเป็นประจำกระตุ้นการไหลเวียนเลือด การหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ป้องกันการทำลายคอลลาเจน การจัดการความเครียดด้วยการทำสมาธิ โยคะ หรือกิจกรรมที่ผ่อนคลายช่วยลดฮอร์โมนคอร์ติซอล การใส่แว่นกันแดดทุกครั้งที่ออกแดดป้องกันรังสี UV การล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์อ่อนโยนและหลีกเลี่ยงการขยี้ตาจะรักษาสภาพผิวหนังไม่ให้เสื่อมสลาย

3. พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับคุณภาพ 7-9 ชั่วโมงต่อคืนเป็นวิธีที่สำคัญที่สุดในการลดขอบตาดำ ขณะหลับลึก ร่างกายจะซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังและกำจัดสารพิษ การนอนไม่เพียงพอทำให้เส้นเลือดใต้ตาขยายตัวและมองเห็นเป็นสีคล้ำ การตั้งเวลานอนเป็นเวลาเดียวกันทุกวันช่วยปรับจังหวะชีวิต การหลีกเลี่ยงคาเฟอีนหลัง 14.00 น. และแสงสีฟ้าจากหน้าจอก่อนนอน 1 ชั่วโมงช่วยให้หลับง่ายขึ้น การใช้หมอนพิงศีรษะที่สูงพอสมควรป้องกันน้ำเหลืองคั่งค้าง การสร้างสภาพแวดล้อมการนอนที่เหมาะสม เช่น ห้องมืด เย็น และเงียบ จะช่วยให้ได้การพักผ่อนที่มีคุณภาพ การหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมากก่อนนอนก็ช่วยลดการบวมตอนเช้า

4. บำรุงรอบดวงตาด้วยสูตรมาสก์ตา

 มาสก์ตาเป็นทรีตเมนต์เข้มข้นที่ช่วยบำรุงผิวหนังรอบดวงตาอย่างเฉพาะเจาะจง ส่วนผสมสำคัญเช่น ไฮยาลูรอนิกแอซิดเพิ่มความชุ่มชื้น วิตามินซีลดเม็ดสี เรตินอลกระตุ้นการผลิดคอลลาเจน คาเฟอีนกระตุ้นการไหลเวียน และเปปไทด์ซ่อมแซมผิวหนัง การใช้มาสก์ตา 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์เป็นประจำจะให้ผลลัพธ์ที่ดี ก่อนใช้ควรทำความสะอาดผิวหนังให้เรียบร้อย แล้วแปะมาสก์ตาม 15-20 นาที หลังจากนั้นนวดส่วนเกินเบา ๆ เข้าผิวหนัง สามารถทำมาสก์ธรรมชาติได้จากแตงกวา มันฝรั่ง หรือใบชาเขียวที่มีสรรพคุณต้านอักเสบและให้ความชุ่มชื้น การเลือกมาสก์ควรเหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาเฉพาะของแต่ละคน

บำรุงรอบดวงตาวิธีแก้ขอบตาดำคล้ำ

5. ทำทรีตเมนต์ ทาครีมบำรุงใต้ตา

การใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาเฉพาะทางเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลระยะยาว ครีมที่แนะนำคือ นูโทรจีนา วิซิเบิล รีแพร์ อาย ครีม 15 กรัม มีสูตรเฉพาะสำหรับลดริ้วรอยและขอบตาดำ สกินทิฟิค 360 ครีมบำรุงรอบดวงตา พร้อมเครื่องนวดคริสตัล 20 กรัม ผลิตภัณฑ์ไทยคุณภาพสูงที่มาพร้อมเครื่องนวด ทอร์ริเดน อาย ครีม เซลล์เมสซิ่ง เฟริมมิ่ง 30 มล. จากเกาหลีที่มีเทคโนโลยีสเต็มเซลล์ และยูเซอริน ไฮยาลูรอน ฟิลเลอร์ อีลาสติซิตี้ อาย ครีม SPF20 15 มล. ที่มาพร้อมการป้องกันแสงแดด การทาครีมควรใช้นิ้วนางเบา ๆ ตบให้ซึมจากหัวตาไปหางตา เช้าและก่อนนอน ผลลัพธ์จะเห็นได้ภายใน 4-6 สัปดาห์

6. เพิ่มการไหลเวียนเลือดบริเวณใต้ตา

การกระตุ้นการไหลเวียนเลือดช่วยลดการคั่งค้างของเลือดใต้ตาและขนส่งสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ผิวหนัง การออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น การวิ่ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มการไหลเวียนทั่วร่างกาย การทำโยคะหรือไต่เก็ก โดยเฉพาะท่าที่ยกศีรษะขึ้นสูง ช่วยให้เลือดไหลกลับสู่หัวใจได้ดีขึ้น การนวดหน้าด้วยการกดจุดสำคัญรอบดวงตาเป็นวงกลมเบา ๆ 5-10 นาทีทุกวัน การใช้โรลเลอร์หยกหรือกัวซ่าเบา ๆ การประคบด้วยน้ำอุ่นและเย็นสลับกัน และการหายใจลึก ๆ เพื่อเพิ่มออกซิเจนในเลือด การหลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนนานเกินไปโดยไม่เคลื่อนไหวก็ช่วยป้องกันเลือดคั่งค้าง การดื่มน้ำอุ่นตอนเช้าช่วยกระตุ้นการไหลเวียน

7. นวดใต้ตา

เทคนิคการนวดที่ถูกต้องจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนและลดการบวม เริ่มต้นด้วยการล้างมือให้สะอาดและทาครีมหรือออยล์เบา ๆ เพื่อลดการเสียดสี ใช้นิ้วนางแสดงเบียดเบา ๆ เริ่มจากมุมในของตา เคลื่อนไปทางขมับเป็นเส้นโค้ง ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง จากนั้นใช้นิ้วกลางและนิ้วนางกดจุดแอคพอยท์รอบดวงตา เริ่มจากมุมในตา ก้นตา และมุมนอกตา กดค้างจุดละ 3-5 วินาที การนวดแบบเซียะสึ นวดวงกลมเล็ก ๆ บริเวณกระดูกใต้ตา การใช้เครื่องมือนวดเช่น โรลเลอร์หยก กัวซ่า หรือช้อนเย็น จะเพิ่มประสิทธิภาพ ควรนวดทุกเช้าและก่อนนอน นวดเบา ๆ ไม่ดึงหรือกดแรง เพื่อไม่ให้ผิวหนังเสียหาย

นวดใต้ตา แก้ใต้ตาดำ

8. ประคบน้ำอุ่น

ความอุ่นช่วยขยายเส้นเลือดและกระตุ้นการไหลเวียน ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่ม 40-45 องศาเซลเซียส บีบให้หมาด ประคบบริเวณใต้ตา 10-15 นาที การประคบน้ำอุ่นช่วยเพิ่มการดูดซึมของครีมบำรุงที่ทาก่อนหน้า ทำให้รูขุมขนขยายตัวและสารสกัดซึมลึกขึ้น สามารถผสมน้ำมันหอมระเหยเช่น ลาเวนเดอร์หรือคาโมไมล์เพื่อผลผ่อนคลาย หลังประคบน้ำอุ่นควรประคบน้ำเย็นอีกครั้งเพื่อกระชับผิวหนัง ไม่ควรใช้น้ำร้อนเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวหนังแห้งและระคายเคือง การประคบน้ำอุ่นทำได้ทุกวันก่อนนอน หรือก่อนทาครีมบำรุง การประคบด้วยผ้าขนหนูเปียกน้ำอุ่นจะให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังด้วย

9. ประคบใต้ตาด้วยถุงชา

ใบชาเขียวและชาดำมีสารต้านอักเสบและคาเฟอีนที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียน ชงชาด้วยน้ำร้อนแล้วปล่อยให้เย็น เก็บถุงชาในตู้เย็น 15-20 นาที แล้วนำมาประคบใต้ตา 10-15 นาที สารแทนนินในชาช่วยกระชับผิวหนังและลดการบวม คาเฟอีนกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและลดขอบตาดำ ชาแคโมไมล์มีสรรพคุณผ่อนคลายและลดการอักเสบ การใช้ถุงชาเป็นวิธีธรรมชาติที่ปลอดภัยและประหยัด สามารถทำได้ทุกวัน หลังใช้ควรล้างใบหน้าด้วยน้ำเย็นเพื่อกำจัดคราบชา การเก็บถุงชาที่ใช้แล้วในตู้เย็นสามารถนำมาใช้ใหม่ได้ 2-3 ครั้ง ผลลัพธ์จะเห็นได้ทันทีในการลดการบวม และผลระยะยาวในการลดขอบตาดำ

10. ใช้แผ่นเจลเย็นปิดตา

อุณหภูมิเย็นช่วยหดตัวของเส้นเลือดและลดการบวม แผ่นเจลเย็นออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับบริเวณรอบดวงตา เก็บในตู้เย็นแล้วนำมาใช้ตอนเช้าหลังตื่นนอน แปะ 10-20 นาที ความเย็นช่วยกระชับผิวหนังและลดอาการคันจากภูมิแพ้ สามารถใช้ร่วมกับครีมบำรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การใช้แผ่นเจลเย็นเป็นประจำช่วยป้องกันการบวมตอนเช้า โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีปัญหาน้ำเหลืองคั่งค้าง แผ่นเจลมีข้อดีคือสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ทำความสะอาดง่าย และให้ความเย็นที่สม่ำเสมอ หากไม่มีแผ่นเจลสามารถใช้ช้อนเย็น แตงกวาแช่เย็น หรือถุงน้ำแข็งห่อผ้าแทนได้ ไม่ควรใช้ความเย็นโดยตรงบนผิวหนังเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ

11. แต่งหน้าปกปิด

เทคนิคการแต่งหน้าที่ถูกต้องช่วยปกปิดขอบตาดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เริ่มจากการใช้ไพรเมอร์รอบดวงตาเพื่อปรับสีผิวและให้เครื่องสำอางติดทนนาน เลือกคอนซีลเลอร์ที่มีสีตรงข้ามกับขอบตาดำ สำหรับขอบตาดำสีน้ำเงิน-ม่วงใช้สีส้ม-พีช สำหรับสีน้ำตาลใช้สีเหลือง ทาคอนซีลเลอร์เป็นรูปสามเหลี่ยมกลับหัวใต้ตา แล้วตบให้เบลนด์ด้วยนิ้วหรือฟองน้ำ เซ็ตด้วยแป้งโปร่งแสง ใช้อายแชโดว์สีอ่อนเพิ่มความสว่างให้ดวงตา หลีกเลี่ยงสีเข้มที่ทำให้ขอบตาดำเด่นขึ้น การเลือกเครื่องสำอางคุณภาพดีที่ไม่ระคายเคืองผิวหนังสำคัญมาก ควรถอดเครื่องสำอางให้สะอาดทุกคืนเพื่อไม่ให้ผิวหนังอักเสบ

12. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์เป็นการรักษาระดับแพทย์ที่ให้ผลลัพธ์ทันทีและยาวนาน โดยการฉีดสารไฮยาลูรอนิกแอซิดใต้ผิวหนังเพื่อเติมเต็มร่องลึกและปรับปรุงโครงสร้างใต้ตา ช่วยลดเงาที่ก่อให้เกิดขอบตาดำ การรักษานี้ต้องทำโดยแพทย์ผิวหนังที่มีประสบการณ์เพราะบริเวณรอบดวงตามีเส้นเลือดและเส้นประสาทที่ซับซ้อน ผลลัพธ์คงอยู่ 9-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการดูแลหลังทรีตเมนต์ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นคือ การบวม ช้ำเล็กน้อย หรือการอักเสบ ราคาค่อนข้างสูงแต่ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยาวนาน ก่อนตัดสินใจควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดเพื่อประเมินความเหมาะสมและความปลอดภัย การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ถูกต้องจะช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่นานขึ้น

13. การฉีดเมโส ลดใต้ตาดำ

เมโสเธอราปีเป็นการฉีดสารสกัดบำรุงเข้าชั้นกลางของผิวหนัง ใช้สารผสมพิเศษที่มีวิตามินซี กลูตาไธโอน ไฮยาลูรอนิกแอซิด และสารสกัดต่าง ๆ ที่ช่วยลดเม็ดสีและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน การรักษาต้องทำหลายครั้ง โดยเว้นระยะ 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง รวม 4-6 ครั้ง ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ปรากฏหลังการรักษาครั้งที่ 3-4 ข้อดีคือปลอดภัยกว่าการผ่าตัด ฟื้นตัวเร็ว และสามารถทำได้บ่อยครั้ง ผลข้างเคียงมีน้อย อาจมีการบวมเล็กน้อยหลังฉีด 1-2 วัน ราคาต่อครั้งไม่สูงมาก แต่ต้องทำหลายครั้งจึงมีค่าใช้จ่ายสะสม เหมาะสำหรับผู้ที่มีขอบตาดำจากปัญหาเม็ดสีหรือการขาดความชุ่มชื้น การดูแลผิวหนังหลังการรักษาด้วยการใช้ครีมกันแดดและหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดจะช่วยรักษาผลลัพธ์

14. ปรับเปลี่ยนท่านอน

ท่านอนมีผลต่อการสะสมของน้ำเหลืองและการไหลเวียนของเลือดรอบดวงตา การนอนหงายด้วยหมอนที่สูงพอสมควร 2-3 ใบ ช่วยให้ศีรษะสูงกว่าลำตัว ทำให้น้ำเหลืองไหลกลับสู่หัวใจได้ดีขึ้น หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือนอนตะแคงเอียงหน้าลงเพราะจะทำให้เลือดและน้ำเหลืองคั่งค้างใต้ตา การใช้หมอนที่มีความแข็งพอเหมาะจะช่วยพยุงศีรษะและคอให้อยู่ในท่าที่ถูกต้อง หมอนที่นุ่มเกินไปจะทำให้ศีรษะจมลงและขัดขวางการไหลเวียน การปรับอุณหภูมิห้องให้เย็นสบาย ความชื้นพอเหมาะ และหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมากก่อนนอน 2 ชั่วโมง จะช่วยลดการบวมตอนเช้า การนอนในเวลาที่สม่ำเสมอและการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการหลับลึกจะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่

15. ใช้วิตามินและอาหารเสริม

วิตามินและแร่ธาตุบางชนิดมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพผิวหนังและลดขอบตาดำ วิตามินซีช่วยสร้างคอลลาเจนและลดเม็ดสี วิตามินอีต้านอนุมูลอิสระ วิตามินเคช่วยในการแข็งตัวของเลือดและลดรอยช้ำ ไบโอฟลาโวนอยด์จากส้มหรือองุ่นช่วยเสริมสร้างผนังหลอดเลือด เหล็กสำคัญสำหรับการสร้างเฮโมโกลบิน การขาดเหล็กทำให้เลือดมีสีคล้ำ สังกะสีช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ผิวหนัง โอเมก้า 3 จากปลาหรือถั่วช่วยลดการอักเสบ กลูตาไธโอนช่วยขจัดสารพิษและลดเม็ดสี การรับประทานอาหารเสริมควรปรึกษาแพทย์ก่อน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาอื่น การรับประทานผักผลไม้สีเข้มที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจะให้ประโยชน์ในระยะยาว

ทานอาหารมีส่วนช่วยบำรุงตา และฟื้นฟูผิวแก้ใต้ตาดำ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับขอบตาดำ

1. ขอบตาดำจากภูมิแพ้แก้ยังไง?

ขอบตาดำจากภูมิแพ้เกิดจากการอักเสบเรื้อรังที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัวและการขยี้ตาบ่อย ๆ การแก้ไขต้องเริ่มจากการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่นไรฝุ่น ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ หรือเครื่องสำอางบางชนิด การล้างหน้าด้วยน้ำเย็นและใช้คลีนเซอร์อ่อนโยนช่วยลดการระคายเคือง การใช้ยาแก้แพ้ชนิดรับประทานหรือหยอดตาตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยลดอาการอักเสบ การประคบเย็นด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำเย็น 10-15 นาที ช่วยลดอาการคันและบวม หลีกเลี่ยงการขยี้ตาโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้อาการแย่ลง การใช้ครีมบำรุงที่มีสารต้านอักเสบเช่น อโลเวร่า หรือแคโมไมล์ จะช่วยผ่อนคลายผิวหนัง การทำความสะอาดบ้านและปรับอากาศให้มีความชื้นเหมาะสมช่วยลดสารก่อภูมิแพ้ หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงและได้รับการรักษาที่เหมาะสม

2. ทำไมนอนดึกถึงขอบตาดำ?

การนอนดึกส่งผลกระทบต่อร่างกายหลายระบบที่นำไปสู่ขอบตาดำ เมื่อร่างกายไม่ได้พักผ่อนเพียงพอ การไหลเวียนของเลือดจะช้าลง เส้นเลือดใต้ตาขยายตัวเพื่อขนส่งออกซิเจนให้เพียงพอแก่เซลล์ที่ทำงานหนัก ทำให้มองเห็นเป็นสีคล้ำมากขึ้น การนอนไม่เพียงพอทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น ซึ่งทำลายคอลลาเจนและทำให้ผิวหนังบางลง ทำให้เส้นเลือดใต้ผิวหนังเห็นชัดขึ้น กระบวนการซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังที่เกิดขึ้นขณะหลับลึกจะไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้ผิวหนังมีสีซีดและขาดความสดใส การขาดหลับยังทำให้ระบบน้ำเหลืองทำงานไม่ปกติ ของเสียจึงสะสมอยู่ใต้ตา นอกจากนี้ความเหนื่อยล้ายังทำให้เราขยี้ตาบ่อย ๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มการบาดเจ็บให้กับผิวหนังอ่อนโยนรอบดวงตา การนอนดึกเป็นประจำจะสะสมผลกระทบและทำให้ขอบตาดำถาวรขึ้น

3. ขอบตาดำบ่งบอกโรคอะไรได้บ้าง?

ขอบตาดำอาจเป็นสัญญาณของโรคหรือภาวะต่าง ๆ โรคโลหิตจางจากการขาดเหล็กทำให้เลือดมีออกซิเจนน้อย มีสีคล้ำขึ้น โรคไตที่ทำให้น้ำและเกลือสะสม ก่อให้เกิดการบวมและขอบตาดำ โรคตับที่ส่งผลต่อการกำจัดสารพิษ โรคไทรอยด์ทั้งต่ำและสูงส่งผลต่อการเมแทบอลิซึมและการไหลเวียนเลือด โรคหัวใจที่ทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี โรคภูมิแพ้รุนแรงหรือหอบหืดที่ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง การติดเชื้อไซนัสที่ทำให้เกิดการบวมรอบดวงตา โรคเกี่ยวกับการนอนหลับเช่น Sleep Apnea ที่ทำให้ไม่ได้พักผ่อนอย่างมีคุณภาพ โรคซึมเศร้าที่ส่งผลต่อการนอนหลับและฮอร์โมน การขาดวิตามินบีคอมเพล็กซ์ วิตามินซี หรือเหล็ก หากขอบตาดำเกิดขึ้นอย่างกะทันหันหรือรุนแรงผิดปกติ มีอาการร่วมอื่น ๆ เช่น ใจสั่น หายใจเหนื่อย บวมที่ส่วนอื่นของร่างกาย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ

4. นอนดึก ขอบตาดำ ป้องกันอย่างไร?

การป้องกันขอบตาดำจากการนอนดึกต้องเริ่มจากการปรับปรุงนิสัยการนอน ตั้งเวลานอนให้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน แม้ในวันหยุด หลีกเลี่ยงคาเฟอีนหลัง 14.00 น. และแอลกอฮอล์ก่อนนอน สร้างกิจกรรมผ่อนคลายก่อนนอน เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลงเบา ๆ หรือทำสมาธิ ปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอน 1 ชั่วโมง เพราะแสงสีฟ้าขัดขวางการหลั่งเมลาโทนิน จัดสภาพแวดล้อมการนอนให้เหมาะสม ห้องมืด เย็น เงียบ ใช้หมอนที่สูงพอเหมาะเพื่อช่วยการไหลเวียน หากจำเป็นต้องนอนดึก ให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อชดเชยการขาดน้ำ ใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาก่อนนอน ตื่นมาประคบเย็นเพื่อลดการบวม รับประทานอาหารที่มีวิตามินซีและเหล็ก เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวหนัง หลีกเลี่ยงเกลือมากเกินไปที่จะทำให้บวม พักสายตาจากหน้าจอบ่อย ๆ และไม่ขยี้ตาแม้จะง่วงนอน การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้หลับลึกขึ้นและเพิ่มการไหลเวียนเลือด

5. ขอบตาดำ หายเองได้ไหม?

ขอบตาดำสามารถหายเองได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง หากเกิดจากการนอนไม่เพียงพอ ความเหนื่อยล้า การขาดน้ำ หรือความเครียดชั่วคราว เมื่อปรับปรุงปัจจัยเหล่านี้แล้วขอบตาดำจะค่อย ๆ จางลงและหายไปใน 1-2 สัปดาห์ การขอบตาดำจากภูมิแพ้จะดีขึ้นเมื่อหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และได้รับการรักษาที่เหมาะสม ขอบตาดำจากการขาดสารอาหารจะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุเพียงพอ แต่ขอบตาดำจากพันธุกรรม การเสื่อมสภาพของผิวหนังตามอายุ หรือโครงสร้างของกระดูกหน้า มักจะไม่หายเองและต้องใช้วิธีการรักษาเฉพาะทาง การขอบตาดำที่เกิดจากโรคประจำตัวต้องรักษาโรคต้นเหตุก่อน ระยะเวลาในการฟื้นฟูขึ้นอยู่กับความรุนแรง ระยะเวลาที่เป็น และการดูแลที่ถูกต้อง โดยทั่วไปการปรับปรุงจะเริ่มเห็นได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ หากไม่มีการปรับปรุงหลังจากดูแลตนเองอย่างถูกต้องแล้ว 2 เดือน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและวิธีการรักษาที่เหมาะสม

ขอบตาดำคล้ำเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้หากเราเข้าใจสาเหตุและใช้วิธีการที่ถูกต้อง ตั้งแต่การปรับปรุงการใช้ชีวิต การนอนหลับที่เพียงพอ การดูแลด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ไปจนถึงการรักษาแบบเฉพาะทางสำหรับกรณีที่รุนแรง

สิ่งสำคัญคือความอดทนและการดูแลอย่างสม่ำเสมอ เพราะผลลัพธ์ที่ดีต้องใช้เวลาและความเอาใจใส่ การรวมหลายวิธีเข้าด้วยกันจะให้ผลที่ดีกว่าการใช้วิธีเดียว และที่สำคัญคือการเลือกผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเอง

🛍️ มาชอปผลิตภัณฑ์บำรุงรอบดวงตาคุณภาพของแท้กับเรา! ที่ร้านวัตสัน และวัตสันออนไลน์

คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ

Previous

15 ไอเดียผมสีเทาหม่น แฟชั่นสุดชิค

Related Topics
Share
*/?>