All

สั่งผิวสวยด้วย “10 วิตามินบํารุงผิว” ยิ่งทาน ยิ่งปัง!

บำรุงผิว / 2025-08-07

by Metineesa28 24

เฮลโหล สาว ๆ เค้าว่ากันว่าการมีสุขภาพผิวที่ดีมีค่ายิ่งกว่าทองคำ สาว ๆ เห็นด้วยกันไหมคะ ก็จะไม่ให้พูดแบบนี้ได้ยังไง เพราะนี่คือเรื่องจริงที่ไม่ว่าสาว ๆ ยุคไหน สมัยไหนก็ตามต้องใฝ่ฝันและถวิลหาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการมีผิวที่เนียนใส เปล่งปลั่งออร่า และมีความเด้งดึ๋งยิ่งกว่าผิวเด็ก แต่ยุคนี้สมัยนี้จะดูแลให้ผิวสวย เนียนใส เป็นเรื่องที่ต้องขอบอกเลยว่ายากมากจริง ๆ

โดยเฉพาะสาว ๆ วัยทำงาน ที่มีชีวิต Busy อย่างเรา ๆ นอกจากจะยังไม่มีเวลาแล้ว สภาพอากาศ และมลภาวะต่าง ๆ โดยเฉพาะมลภาวะสุดฮิต PM 2.5 ในบ้านเราที่เป็นตัวการให้ผิวของสาว ๆ หมดความสดใส รวมทั้งเป็นต้นตอของปัญหาด้านริ้วรอย จุดด่างดำ และอายุผิวที่ล้ำไปก่อนวัยอันควรอีกด้วย

แต่บอกเลยว่าไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะวันนี้วัตสัน มีทริคดี ๆ ที่สามารถดูแลผิวเรา ด้วย 10 วิตามินบํารุงผิวสุดฮิต ที่จะมาช่วยบำรุงผิวให้สวยสดใส เปล่งออร่าจากภายในสู่ภายนอก แค่จ่ายเงินเพียงแค่ไม่กี่ร้อยก็ได้ผิวที่ดูแพงและมีสกุล แถมยังเป็นกุญแจไปสู่ผิวสวยเปล่งประกายได้ในระยะเวลาที่รวดเร็วอีกด้วย

10 วิตามินบํารุงผิวมีอะไรบ้าง?

1.วิตามินซี (Vitamin C)

เริ่มกันที่วิตามินบํารุงผิวยอดฮิตอย่าง “วิตามินซี” หลายคนคงรู้จักวิตามินบํารุงผิวตัวนี้เป็นอย่างดี เพราะถูกปลูกฝังในตำราเรียนตั้งแต่วัยเด็กว่า วิตามินซีมีอยู่ในผักและผลไม้ในชีวิตประจำวันอย่างมะเขือเทศ ส้ม สตรอว์เบอร์รี บรอกโคลี ฯลฯ สำหรับวิตามินซีมีความสำคัญต่อผิวก็คือ ทำให้ผิวขาวดูกระจ่างใส และเป็นเกราะป้องกันผิวคล้ำเสียจากแสงแดดและช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ

ช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวของสาว ๆ เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์เป็นสาวสองพันปีอยู่เสมอ สำหรับใครที่อยากเติมความเต่งตึงให้กับผิว แถมวิตามินซีราคายังไม่แพงอีกด้วย เราขอแนะนำให้รับประทานวิตามินซี 1,000 มก. ต่อวัน หรือถ้าอยากเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงให้ล้ำขึ้นไปอีกก็สามารใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซีควบคู่กันไปด้วย เพราะจะทำให้ผิวหน้าหรือผิวกายของสาว ๆ แลดูขาวใส สุขภาพดี เลยล่ะค่ะ

2.วิตามินอี (Vitamin E)

ถัดมาที่อีกหนึ่งวิตามินบํารุงผิวที่สำคัญไม่แพ้กันอย่าง “วิตามินอี” หนึ่งในแม่ทัพสำคัญเพื่อการดูแลผิวของสาว ๆ โดยวิตามินอีมีบทบาทในการช่วยทำลายอนุมูลอิสระ เป็นมอยส์เจอไรเซอร์คอยช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยเฉพาะสาว ๆ ที่มีผิวแห้งกร้านควรรับประทานอาหาร ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม หรือให้ครีมดูแลผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินอีให้บ่อยครั้งหรือเป็นประจำ นอกจากนี้ วิตามินอียังเป็นวิตามินบํารุงผิวที่ช่วยในการปกป้องริ้วรอยก่อนวัย และความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง ส่วนปริมาณที่ควรได้รับต่อวันอยู่ที่ 200 – 1,200 IU หรือประมาณ 135 – 800 มก. ต่อวัน ยิ่งถ้าหากรับประทานหรือใช้ควบคู่กับวิตามินซีก็จะยิ่งช่วยให้ผิวปังยิ่งขึ้น

3.วิตามินเค (Vitamin K)

ใครที่มีปัญหาผิวฟกช้ำ หรือใต้ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้าต้องนี่เลย “วิตามินเค” สาว ๆ หลายคนอาจเคยแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการโปะคอนซีลเลอร์หรือรองพื้นแบบหนาเตอะ ลองเปลี่ยนมารับประทาน หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินเคดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าแก้ปัญหาความคล้ำ กระดำกระด่างได้จริง โดยวิตามินเคเป็นวิตามินบํารุงผิวที่มีส่วนช่วยในกระบวนการรักษาการแข็งตัวของเลือด การฟื้นฟูบาดแผลหลังศัลยกรรม เช่น เลเซอร์ ผ่าตัด โดยอาหารที่เป็นแหล่งรวมของวิตามินเคก็ได้แก่ กะหล่ำปลี ตับ นม ผักใบเขียว น้ำมันมะกอก เป็นต้น

4.วิตามินดี (Vitamin D)

มากันที่วิตามินบํารุงผิวที่มักจะถูกลืม และถูกมองข้ามกันไปอย่าง “วิตามินดี” น้อยคนอาจจะรู้ว่าวิตามินดีก็เป็นตัวช่วยที่สำคัญสำหรับผิวที่สวยใส โดยแหล่งรวมที่หาง่ายที่สุดของวิตามินดีก็คือ แสงแดดอ่อน ๆ ในยามเช้า ซึ่งผิวของเราสามารถสังเคราะห์ได้ แต่ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ การสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกาย รวมทั้งครีมกันแดด จึงทำให้คนส่วนใหญ่ขาดวิตามินดีโดยไม่รู้ตัว สำหรับวิตามินดีนั้น มีคุณสมบัติพิเศษในการป้องกันปัญหาการเกิดสิว และการติดเชื้อต่าง ๆ ส่วนแหล่งรวมของวิตามินดี เช่น น้ำมันตับปลา ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน และผลิตภัณฑ์จากนม เป็นต้น

5.วิตามินบี 3 (Vitamin B3)

เอาใจคนที่ชื่นชอบและใฝ่ฝันอยากมีผิวกระจ่างใสกันบ้างกับ “วิตามินบี3” วิตามินบํารุงผิวชนิดนี้ช่วยในเรื่องการกระจายเม็ดสีผิว การเร่งการผลัดเซลล์ผิว เพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจน รวมทั้งลดการสร้างเมลานิน จึงทำให้กระฝ้าจางลง และยังช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่น ป้องกันการสูญเสียน้ำได้ นอกจากนี้ ยังช่วยลดการระคายเคือง รอยแดงต่าง ๆ ให้จางลง ส่วนแหล่งรวมวิตามินบี 3 นั้นก็มีทั้งในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ครีมบำรุง อาหารประเภทโฮลวีต จมูกข้าวสาลี ไข่ ลูกพรุน เป็นต้น

6.วิตามินเอ (Vitamin A)

ต่อมาเป็น “วิตามินเอ” วิตามินบํารุงผิวที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายในหลายด้าน รวมไปถึงช่วยบำรุงผิวโดยเฉพาะในเรื่องการลดริ้วรอยเหี่ยวย่น เพราะวิตามินเอมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ที่เป็นโปรตีนสำคัญทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น รวมไปถึงช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ลดรอยด่างดำไปด้วย นอกจากนั้นยังช่วยรักษาสิว ด้วยคุณสมบัติของวิตามินที่ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันของผิวหนัง ลดการอุดตันรูขุมขนนั่นเอง ซึ่งเราสามารถพบวิตามินเอได้จากแหล่งอาหาร เช่น ผักใบเขียวเข้ม ผักและผลไม้สีส้ม/เหลือง ผักและผลไม้สีแดง ตับ ไข่ ผลิตภัณฑ์นม ปลา น้ำมันตับปลา เป็นต้น

7.โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10)

ตามมาด้วย “โคเอนไซม์คิวเทน” เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในไขมัน ซึ่งร่างกายสร้างขึ้นเองได้และพบได้ในทุกเซลล์ มีบทบาทสำคัญในการผลิตพลังงานในระดับเซลล์ (ATP) และยังทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวหนัง ปกป้องเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอีลาสตินจากรังสี UVA ทำให้ผิวแข็งแรงและป้องกันเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ แหล่งอาหารที่มีโคเอนไซม์คิวเทน ได้แก่ ปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และธัญพืชไม่ขัดสี เป็นต้น

8.กลูต้าไธโอน (Glutathione)

มาต่อกันที่ตัวช่วยเสริมผิวกระจ่างใส อย่าง “กลูต้าไธโอน” เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นมาเองได้ โดยกลูต้าไธโอนจะเข้าไปยับยั้งการเกิดเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ที่ทำให้เม็ดสีผิวเข้มขึ้น ทำให้เม็ดสีผิวอ่อนลง เลยมีส่วนช่วยปรับผิวให้ขาวและกระจ่างใสขึ้นได้ รวมไปถึงมีส่วนช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ลดเลือนริ้วรอย ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง และกลูต้าไธโอนยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV สามารถพบกลูต้าไธโอนจากแหล่งอาหารได้มาก ในหน่อไม้ฝรั่ง อะโวคาโด บรอกโคลี ผักโขม มะเขือเทศ แตงโม ส้ม สตรอว์เบอร์รี ถั่ว เห็ด เป็นต้น

9.ไลโคปีน (Lycopene)

ต่อมาเป็น “ไลโคปีน” อีกหนึ่งวิตามินบํารุงผิวที่มีประโยชน์ต่อผิวมาก ๆ มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวจากการทำร้ายของแสงแดด ลดอาการผิวไหม้จากแสงแดด ทำให้ผิวไม่คล้ำเสียง่าย และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวแข็งแรงด้วย ซึ่งไลโคปีนจะพบได้มากในอาหารที่มีสีแดงและสีชมพู เช่น มะเขือเทศ และผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศ แตงโม เกรปฟรุตสีชมพู ฝรั่งสีชมพู มะละกอ พริกสีแดง เป็นต้น

10.แอสตาแซนธิน (Astaxanthin)

ตามมาด้วย “แอสตาแซนธิน” สารสีแดงในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) อีกหนึ่งสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงผิวมากมาย ทั้งช่วยป้องกันกระบวนการออกซิเดชั่นที่ทำให้เกิดริ้วรอยและการเสื่อมของเซลล์ ลดริ้วรอยและชะลอความแก่ ลดการอักเสบของผิว ปกป้องผิวจากแสงแดด และช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้นด้วย ซึ่งแอสตาแซนธินเป็นสารที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ส่วนใหญ่สามารถพบได้จากในอาหารทะเลบางชนิด เช่น ปลาแซลมอน กุ้ง เปลือกปู และสาหร่ายสีแดง

10 ยี่ห้ออาหารเสริมบำรุงผิวให้กระจ่างใสมีอะไรบ้าง?

1.Vistra Acerola Cherry วิสทร้า อะเซโรลาเชอร์รี่

วิตามินบํารุงผิวจากสารสกัดอะเซโรลาเชอร์รี่

อาหารเสริมรูปแบบวิตามินบํารุงผิวที่มีส่วนประกอบหลักคือสารสกัดจากอะเซโรลาเชอร์รี่ อุดมไปด้วยวิตามินซีสูง ซึ่งประโยชน์ของอะเซโรลาเชอร์รี่ คือมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยในการสร้างคอลลาเจน ช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ ทำให้ผิวพรรณสดใส และมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ นอกจากตัวช่วยเรื่องผิวแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นหวัดด้วย

เหมาะกับใคร ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวพรรณให้สดใส ผู้ที่ต้องการสารต้านอนุมูลอิสระ

ปริมาณ 20 เม็ด

ราคา 259 บาท

2.Mega เมก้า แนท ซี 1000

อาหารเสริมวิตามินซี มีสรรพคุณช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัดและภูมิแพ้ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย และยังช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่นและกระชับขึ้นด้วย

ปริมาณ 60 เม็ด

ราคา 360 บาท

3.Blackmores แบลคมอร์ส ไบโอ ซี อะซีโรลา พลัส 1500 มก.

อาหารเสริมไบโอ ซี อะซีโรลา พลัส มีส่วนประกอบของวิตามินซี ที่มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน เพื่อการทำงานตามปกติของผิวหนัง ผงน้ำอะซีโรลาเชอร์รี่เข้มข้น และสารสกัดจากโรสฮิพ รวมถึงวิตามินอี และซีลีเนียม มีส่วนช่วยในการปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ

ปริมาณ 40 เม็ด

ราคา 400 บาท

4.Vistra วิสทร้า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สารสกัดจากเมล็ดองุ่น

อาหารเสริมรูปแบบวิตามินบํารุงผิวจากสารสกัดเมล็ดองุ่น มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของการต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของหลอดเลือด ลดความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดและหัวใจอีกด้วย

ปริมาณ 30 แคปซูล

ราคา 330 บาท

5.Dr.pong ดอกเตอร์พงศ์ แอสตาแซนธิน

วิตามินบํารุงผิวให้เปล่งปลั่งดูอ่อนเยาว์

อาหารเสริมแอสต้าแซนธิน (Astaxanthin) จาก Dr.pong สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ที่ดีต่อผิว ช่วยในเรื่องบำรุงผิวให้เปล่งปลั่ง ลดเลือนริ้วรอย และปกป้องผิวจากแสงแดด นอกจากนี้ยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ และช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอีกด้วย

เหมาะกับใคร ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวพรรณให้สดใส ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวอ่อนเยาว์

ปริมาณ 30 เม็ด

ราคา 399 บาท

6.Swisse สวิสเซ คอลลาเจน + เกรปซีด

วิตามินผิวใสจากสารสกัดเมล็ดองุ่นและคอลลาเจน

อาหารเสริม Swisse ที่มีส่วนช่วยผสมหลักเป็นคอลลาเจน ที่ช่วยเสริมสร้างและบำรุงผิวให้แข็งแรง ยืดหยุ่น และลดเลือนริ้วรอย และสารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed) อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายของอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยและความหมองคล้ำ ตัวช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูเต่งตึง ชุ่มชื้น และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดเลือนริ้วรอย และปกป้องเซลล์ผิวด้วย

ปริมาณ 60 เม็ด

ราคา 840 บาท

7.DHC ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ดีเอชซี คอลลาเจน

อาหารเสริมคอลลาเจนจาก DHC แบรนด์จากญี่ปุ่น ตัวนี้เป็นอาหารเสริมคอลลาเจนสกัดจากปลาทะเลน้ำลึก พร้อมเสริมคุณค่าด้วยวิตามิน B1 และ B2 ที่มีสรรพคุณในการช่วยปรับผิวให้สวย อีกทั้ง DHC Collagen ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น รักษาสภาพผิวให้สวยมีน้ำมีนวลจากภายใน เนื่องจากคอลลาเจนจะไปช่วยเสริมผิวพรรณให้กลับมาเต็มมากขึ้น

ปริมาณ 20 เม็ด

ราคา 298 บาท

8.Vida วีด้า คอลลาเจน ไดเปปไทด์ ซี

อาหารเสริมคอลลาเจนที่นอกจากช่วยดูแลเรื่องผิวพรรณ ยังช่วยดูแลเส้นผมและกระดูกด้วย โดยจะมีส่วนช่วยให้ผิวเรียบเนียน ลดริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่น และบำรุงกระดูกให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงและดูแลเล็บไม่ให้เปราะหักง่ายด้วย

เหมาะกับใคร ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวพรรณให้สดใส ผู้ที่ต้องการเสริมความแข็งแรงของเส้นผมและกระดูก

ปริมาณ 60 แคปซูล

ราคา 249 บาท

9.Chame ชาเม่ กลูต้า โกลว์

วิตามินผิวใส เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวมีออร่า

อาหารเสริมกลูต้า ตัวช่วยให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน ชุ่มชื้น และมีออร่า จากส่วนผสมของ L-Glutathione สารสกัดจากซีบัคธอร์น โคคิวเท็น (CoQ10) และซิงค์ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระและฟื้นฟูผิวคล้ำเสียจากแสงแดดด้วย

เหมาะกับใคร ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวพรรณให้สดใส ผู้ที่ต้องการเสริมสารต้านอนุมูลอิสระ

ปริมาณ 30 แคปซูล

ราคา 690 บาท

10.Dr.pong ดอกเตอร์พงศ์ กลูต้า 250 เอสแอล

วิตามินบํารุงผิวกระจ่างใส ให้ผิวแลดูสุขภาพดี

อาหารเสริมกลูต้าจาก Dr.pong ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยมีส่วนประกอบหลักคือ L-Glutathione ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติช่วยลดเลือนจุดด่างดำและฟื้นฟูผิวให้ดูสุขภาพดี นอกจากนี้ยังช่วยให้สีผิวดูสว่างขึ้นด้วย

เหมาะกับใคร ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวพรรณให้สดใส

ปริมาณ 30 เม็ด

ราคา 599 บาท

คำถามที่พบบ่อย

กินวิตามินบํารุงผิวเห็นผลในกี่วัน

การทานวิตามินบํารุงผิวส่วนใหญ่มักจะเห็นผลได้ภายใน 3-4 สัปดาห์ แต่ถ้าอยากให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนอาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ผลลัพธ์ของการทานวิตามินบํารุงผิวอาจจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล รวมถึงปริมาณวิตามินที่ได้รับ ความถี่ในการทาน และปัจจัยอื่น ๆ เช่น การดูแลผิวภายนอก การทาครีมกันแดด หลีกเลี่ยงแสงแดด การบำรุงผิวด้วยครีมบำรุง เป็นต้น

วิตามินบํารุงผิวควรกินเวลาไหนดีที่สุด

สำหรับเวลาที่เหมาะในการทานวิตามินบํารุงผิว ส่วนใหญ่จะทานพร้อมกับมื้ออาหารหรือหลังมื้ออาหาร เพื่อเพิ่มการดูดซึมและเสริมประสิทธิภาพของวิตามินให้ทำงานได้ดี โดยเฉพาะวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และวิตามินเค ควรทานพร้อมมื้ออาหารที่มีไขมัน ส่วนวิตามินที่ละลายในน้ำ เช่น วิตามินซีและวิตามินบีรวม สามารถทานพร้อมมื้ออาหารหรือตอนท้องว่างก็ได้ แต่การทานวิตามินบํารุงผิวพร้อมมื้ออาหารอาจช่วยให้ดูดซึมได้ดีขึ้น

วิตามินบํารุงผิวมีผลข้างเคียงไหม

สำหรับผลข้างเคียงของการกินวิตามินบํารุงผิว ถึงแม้ว่าจะพบไม่บ่อย แต่อาจจะเกิดผลข้างเคียงได้บ้าง เช่น อาการแพ้วิตามินบํารุงผิว หรือสารอื่น ๆ ที่ผสมในวิตามิน หากมีอาการแพ้ เช่น ผื่นคัน หายใจลำบาก หรืออาการอื่น ๆ ที่ผิดปกติ ควรหยุดทานและรีบปรึกษาแพทย์ทันที นอกจากนี้การทานวิตามินบํารุงผิวมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายขึ้นได้ เช่น ผลกระทบต่อตับและไต ภาวะธาตุเหล็กเกิน เป็นต้น

ต้องกินวิตามินบํารุงผิวตลอดไหม

อย่างที่ได้บอกไปว่าการกินวิตามินบํารุงผิวมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เราจึงไม่จำเป็นต้องกินวิตามินบํารุงผิวไปตลอด ถ้าหากทานอาหารครบ 5 หมู่และมีสุขภาพผิวที่ดีอยู่แล้ว สามารถทานวิตามินบํารุงผิวได้ตามความต้องการและตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญร่วมด้วย

วิตามินบํารุงผิวควรกินคู่กับอะไรเพื่อให้เห็นผลเร็วขึ้น

วิตามินบํารุงผิวสามารถเห็นผลได้เร็วขึ้นเมื่อทานร่วมกับวิตามินหรือสารอาหารอื่น ๆ ที่ส่งเสริมการทำงานของวิตามินเหล่านั้น และควรทานอย่างถูกวิธี ซึ่งวิตามินบํารุงผิวที่ควรกินคู่กันเพื่อเสริมการทำงานของกันและกัน ได้แก่

วิตามินซี + วิตามินอี + วิตามินเอ วิตามินซีช่วยเสริมการทำงานของวิตามินอีและเอ ในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
วิตามินซี + กลูต้าไธโอน วิตามินซีช่วยให้กลูต้าไธโอนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น
ไลโคปีน + วิตามินอี ไลโคปีนช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก วิตามินอีช่วยเสริมประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสื่อมของเซลล์ และช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
คอลลาเจน + วิตามินซี วิตามินซีช่วยในการดูดซึมคอลลาเจน และช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในร่างกาย
วิตามินซี + ไฮยาลูรอนิค แอซิด ไฮยาลูรอนิค แอซิดช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว วิตามินซีจะทำงานได้ดีขึ้นเมื่อผิวมีความชุ่มชื้นเพียงพอ
วิตามินซี + ไนอะซินาไมด์ ไนอะซินาไมด์ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว วิตามินซีช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ทั้งสองตัวช่วยลดความหมองคล้ำและทำให้ผิวกระจ่างใส

การรับประทานวิตามินบํารุงผิวเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับสาว ๆ ที่ต้องการจะดูแลหรือฟื้นฟูสภาพผิว ซึ่งนอกจากวิตามินบํารุงผิวที่เล่ามาข้างต้นแล้วนั้น ยังมีทางเลือกอื่น ๆ ที่น่าสนใจและขอแนะนำเพิ่มเติม ได้แก่ กรดไฮยาลูรอน น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากเมล็ดองุ่น โคเอนไซม์คิวเทน คอลลาเจน รวมถึงกลูตาไธโอน โดยใครที่สนใจผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็สามารถมาเลือกซื้อได้ที่ “ร้านวัตสัน” ทุกสาขา รับรองได้เลยว่าได้สิ่งดี ๆ กลับบ้านไปเพียบแน่นอน

ข้อมูลอ้างอิง

https://www.bdmswellness.com/knowledge/5-vitamins-to-strengthen-your-skin

https://www.samh.co.th/blog/skin-nourishing-vitamin/

https://www.wongnai.com/highlight-products/skin-brightening-supplement

คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ

รู้ช้าผิวอาจพัง ! เมื่อหน้าติดสารสเตียรอยด์จากสกินแคร์ที่ใช้