โหลดแอปฯ
ดาวน์โหลด:
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอปวัตสัน
  • google-play.png
  • app-store.png
  • app-gallery.png
ค้นหาร้านค้า บทความน่าอ่าน
Watsons Services
0
ตะกร้า
Share

อีฟนิ่งพริมโรสหรือดอกอีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose) เป็นพืชที่มีการนำเมล็ดมาสกัดเป็นน้ำมันซึ่งมีกรดไขมันจำเป็นหลายชนิด โดยเฉพาะกรดแกมมา-ลิโนเลนิก (GLA) มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ของอีฟนิ่งพริมโรสในหลายด้าน แม้ผลการวิจัยยังไม่สรุปชัดเจนในบางกรณี แต่หลายคนเลือกใช้อีฟนิ่งพริมโรสเพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนในผู้หญิง

อีฟนิ่งพริมโรส คืออะไร?

อีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose) เป็นพืชดอกสีเหลืองที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือมีประโยชน์ทางการแพทย์ โดยน้ำมันที่สกัดจากเมล็ดของมันมีสารอาหารสำคัญหลายชนิด ที่โดดเด่นที่สุดคือกรดแกมมา-ลิโนเลอิก (GLA) ซึ่งเป็นกรดไขมันจำเป็นจัดอยู่ในกลุ่มโอเมก้า-6 นอกจากนี้ อีฟนิ่งพริมโรสยังมีกรดไขมันจำเป็นอื่น ๆ เช่น กรดลิโนเลอิก วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย

อีฟนิ่งพริมโรส คืออะไร?

ประโยชน์ของอีฟนิ่งพริมโรสต่อสุขภาพ

อีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose Oil) เป็นแหล่งของกรดไขมันจำเป็นในกลุ่มโอเมก้า-6 โดยเฉพาะกรดแกมมา-ไลโนเลนิก (GLA) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ร่างกายใช้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น การดูแลผิวพรรณให้คงความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นตามธรรมชาติ รวมถึงช่วยส่งเสริมสมดุลของร่างกายในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ช่วงก่อนมีประจำเดือนหรือวัยทอง

โดยทั่วไป น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสมักถูกใช้เป็นหนึ่งในทางเลือกของการดูแลสุขภาพในกลุ่มคนที่ใส่ใจเรื่องผิวและสมดุลของฮอร์โมน อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และควรใช้ควบคู่กับพฤติกรรมสุขภาพที่ดี เช่น การรับประทานอาหารให้หลากหลายครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรงอย่างยั่งยืน

อิฟนิ่งพริมโรสออยล์กินตอนไหนดีที่สุด?

การทานอีฟนิ่งพริมโรสให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ควรปฏิบัติดังนี้

ช่วงเวลาที่เหมาะสม

  • ทานหลังอาหารทันที
  • แบ่งทานวันละ 1-2 ครั้ง
  • ควรทานพร้อมอาหารที่มีไขมัน

ขนาดการรับประทาน

  • ผู้ใหญ่: 500-1,300 mg ต่อวัน
  • สตรีมีครรภ์: ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
  • วัยรุ่น: 300-600 mg ต่อวัน

ข้อควรระวังในการใช้อีฟนิ่งพริมโรส

แม้อีฟนิ่งพริมโรสจะมีประโยชน์หลายประการ แต่ผู้ใช้ควรตระหนักถึงข้อควรระวังและข้อจำกัดต่าง ๆ เพื่อการใช้ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

อิฟนิ่งพริมโรสออยล์กินตอนไหนดีที่สุด?

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในการใช้อีฟนิ่งพริมโรส

ปวดศีรษะ

อีฟนิ่งพริมโรสอาจก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะในบางราย โดยเฉพาะเมื่อเริ่มใช้หรือใช้ในปริมาณสูง อาการนี้มักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนและการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย หากเกิดอาการปวดศีรษะรุนแรงหรือต่อเนื่อง ควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์ การเริ่มใช้ในขนาดต่ำแล้วค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการนี้ได้

คลื่นไส้

อาการคลื่นไส้เป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยจากการใช้อีฟนิ่งพริมโรส โดยเฉพาะเมื่อรับประทานในขณะท้องว่าง กรดไขมันจำเป็นในน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสอาจระคายเคืองเยื่อบุกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้ เพื่อลดอาการนี้ ควรรับประทานอีฟนิ่งพริมโรสพร้อมอาหารหรือหลังมื้ออาหารทันที หากอาการไม่ดีขึ้นหรือรุนแรงขึ้น ควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์

ท้องเสีย

น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสอาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดอาการท้องเสียในบางราย โดยเฉพาะในช่วงแรกของการใช้หรือเมื่อใช้ในปริมาณสูง อาการนี้เกิดจากกรดไขมันในน้ำมันมีฤทธิ์กระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ หากเกิดอาการท้องเสียรุนแรงหรือต่อเนื่อง ควรหยุดรับประทานและจิบน้ำบ่อย ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ การเริ่มใช้ในขนาดต่ำและค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอาจช่วยให้ระบบทางเดินอาหารปรับตัวได้ดีขึ้น

กลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงการใช้อีฟนิ่งพริมโรส

ผู้ที่มีภาวะเลือดแข็งตัวช้า

ผู้ที่มีภาวะเลือดแข็งตัวช้าหรือมีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือดควรหลีกเลี่ยงการใช้อีฟนิ่งพริมโรส เนื่องจากกรดแกมมาไลโนเลนิกในน้ำมันอาจมีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือดเล็กน้อย ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดออกผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือดอื่นๆ เช่น วาร์ฟาริน แอสไพริน หรือเฮปาริน ผู้ที่มีประวัติโรคเลือดหรือทานยาละลายลิ่มเลือดหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือดอยู่ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนใช้อีฟนิ่งพริมโรสทุกครั้ง

ผู้ที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด

ผู้ที่มีกำหนดการผ่าตัดควรหยุดใช้อีฟนิ่งพริมโรสอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด เนื่องจากคุณสมบัติในการต้านการแข็งตัวของเลือดอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดออกมากผิดปกติระหว่างและหลังการผ่าตัด การใช้อีฟนิ่งพริมโรสอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาระงับความรู้สึกและยาที่ใช้ในระหว่างการผ่าตัดได้ ผู้ป่วยควรแจ้งให้ศัลยแพทย์และวิสัญญีแพทย์ทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมที่รับประทานอยู่ทุกชนิด รวมถึงอีฟนิ่งพริมโรส

ผู้ที่แพ้พืชตระกูลเดียวกัน

ผู้ที่มีประวัติการแพ้พืชในตระกูล Onagraceae ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับอีฟนิ่งพริมโรส ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์นี้ อาการแพ้อาจแสดงออกได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่ผื่นแพ้สัมผัส อาการคัน ไปจนถึงการหายใจลำบากและภาวะแอนาฟิแล็กซิสในกรณีรุนแรง หากเกิดอาการแพ้หลังการใช้ เช่น ผื่นแดง บวม คัน หายใจลำบาก หรือหน้ามืด ควรหยุดใช้อีฟนิ่งพริมโรสทันทีและไปพบแพทย์โดยเร็ว โดยเฉพาะหากมีอาการรุนแรงอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

การเก็บรักษาอีฟนิ่งพริมโรส

เก็บในที่เย็นและแห้ง

ควรเก็บผลิตภัณฑ์อีฟนิ่งพริมโรสในที่เย็นและแห้ง ที่มีอุณหภูมิคงที่ประมาณ 15-25 องศาเซลเซียส ความร้อนและความชื้นสามารถเร่งการเสื่อมสภาพของกรดไขมันที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในน้ำมัน ทำให้คุณภาพและประสิทธิภาพลดลง จึงควรเก็บผลิตภัณฑ์ในตู้ที่ปิดมิดชิดและห่างจากบริเวณที่โดนแสงแดดโดยตรง และควรหลีกเลี่ยงการเก็บผลิตภัณฑ์อีฟนิ่งพริมโรสในห้องน้ำหรือใกล้เตาไฟที่มีความชื้นและความร้อนสูง

หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง

ควรเก็บน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสให้พ้นจากแสงแดดโดยตรง เนื่องจากรังสี UV สามารถทำลายโมเลกุลของกรดไขมันไม่อิ่มตัวในน้ำมัน ทำให้เกิดการหืนและเสื่อมคุณภาพได้เร็วขึ้น การเก็บในภาชนะทึบแสงหรือในตู้ที่ปิดมิดชิดจะช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพจากแสงได้ ผลิตภัณฑ์อีฟนิ่งพริมโรสที่มีคุณภาพดีมักบรรจุในขวดแก้วสีเข้มหรือแคปซูลที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันแสง ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ได้นานขึ้น

ปิดฝาให้สนิทหลังใช้

ควรปิดฝาภาชนะบรรจุอีฟนิ่งพริมโรสให้สนิททุกครั้งหลังการใช้งาน เพื่อป้องกันการสัมผัสกับอากาศ ซึ่งมีออกซิเจนที่สามารถทำปฏิกิริยาออกซิเดชันกับน้ำมัน ทำให้เกิดการหืนและเสียคุณภาพ น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสที่หืนจะมีกลิ่นเหม็น และอาจก่อให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย หากเป็นไปได้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์อีฟนิ่งพริมโรสที่มีระบบปิดที่ดี เช่น ขวดปั๊มที่ไม่ให้อากาศเข้าไปในขวด หรือแคปซูลนิ่มที่บรรจุในแผงที่ป้องกันความชื้นและอากาศได้ดี

สังเกตวันหมดอายุ

ควรตรวจสอบวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์อีฟนิ่งพริมโรสก่อนซื้อและก่อนใช้เสมอ น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสที่หมดอายุหรือเสื่อมสภาพอาจไม่เพียงแต่ขาดประสิทธิภาพ แต่ยังอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้ หากสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของสี กลิ่น หรือความข้นของน้ำมัน ควรทิ้งผลิตภัณฑ์อีฟนิ่งพริมโรสนั้นถึงแม้จะยังไม่ถึงวันหมดอายุ โดยทั่วไป น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสที่ยังไม่เปิดใช้มีอายุประมาณ 1-2 ปี และหลังจากเปิดใช้แล้วควรใช้ให้หมดภายใน 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับการเก็บรักษาและคุณภาพของผลิตภัณฑ์

สรุป

อีฟนิ่งพริมโรส เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีประโยชน์หลากหลาย โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิง การทานอีฟนิ่งพริมโรสอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอจะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังตั้งครรภ์

หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆ

ปรึกษาเรื่องสุขภาพ และการใช้ยากับเภสัช

คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ

Previous

7 ยาคุมฮอร์โมนเดี่ยว ยี่ห้อไหนดี 2025 พร้อมข้อดี และข้อที่ควรรู้

Next

10 วิธี เวียนหัวกินอะไรหายเบื้องต้น ช่วยลดอาการปวดหัวไมเกรน

Related Topics
Share
WHAT’S HOT
  1. 10 ร้านเสื้อผ้าในไอจีราคาถูก หลักร้อย ไม่ตกเทรนด์
  2. 12 สกินแคร์จาก CICA ส่วนผสมช่วยลดสิว ผิวระคายเคือง
  3. 10 สถานที่ขอพรเรื่องความรัก ช่วยคนโสดไม่ให้นก
  4. 15 ครีมบำรุงผิวขาว และครีมทาผิวขาวยี่ห้อไหนดี 2025
  5. แต่งหน้าเป๊ะปังด้วยเมคอัพ ชิ้นที่สอง1บาท
  6. ทำความรู้จักกับชุดตรวจการตั้งครรภ์ ควร ใช้อย่างไรให้ได้ผลแม่นยำ
  7. 10 ยาสระผมแก้รังแคยี่ห้อไหนดี ลดปัญหาคันหนังศีรษะ พร้อมวิธีแก้คันหัว
  8. 10 วิธี เวียนหัวกินอะไรหายเบื้องต้น ช่วยลดอาการปวดหัวไมเกรน
  9. 7 ยาคุมฮอร์โมนเดี่ยว ยี่ห้อไหนดี 2025 พร้อมข้อดี และข้อที่ควรรู้
  10. อีฟนิ่งพริมโรส มีสรรพคุณและประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร ควรกินตอนไหน
  11. 12 ลิปมันกันแดดบำรุงปากเนียนนุ่ม ลดปากคล้ำตัวเก่งที่วัตสัน
*/?>